วันนี้30พ.ย.61ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่29พ.ย.61ที่ผ่านมาที่ ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูลพล.ต.จตุพร กลัมพสุต รอง มทภ.4/ผอ.สขว.กอ.รมน.ภาค 4 สน./ ผบ.คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ได้ลงพื้นที่เพื่อบัญชาการปฏิบัติการต่อเป้าหมายภัยแทรกซ้อนในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ควนโดน จ.สตูล พร้อมกับได้สั่งการให้มีการบูรณาการกำลังร่วมกับพ.อ.ชัยวิทย์ ทิมทอง หน.คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 สน.,พ.อ.ปัญญ์สวัฒกก์ มาลารัตน์ หน.กลุ่มงานนโยบายแผน และการข่าว กอ.รมน.จังหวัด ส.ต.,พ.อ.นิคม ทองอินทร์แก้ว ผบ.ร.5 พัน.2,ร.อ.ปิยะเชษฐ์ หนูฉ้ง หน.ชรต.กอ.รมน.จังหวัด ส.ต.,ชุดนิติวิทยาศาสตร์ (csi),ชุดสอบสวนคดีพิเศษ (จชต.) (csi) ,กกล.เทพสตรี และ คณะทำพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 สน.ร่วมกันบูรณาการกำลัง จำนวน 120 นาย เข้าปิดล้อมตรวจสอบพื้นที่ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูลตามแผนยุทธการของทหารในการปราบปรามสกัดกั้นนำเข้าสินค้าการเกษตรและสินค้าหนีภาษีผิดกฏหมาย ตามแนวชายแดนจ.สตูลตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะต.วังประจันอ.ควนโดนถือเป็นชายแดนติดกับประเทศมาเลเซียที่มีการลักลอบนำสินค้าทางการเกษตร เช่นน้ำมันพืช พืชผลทางการเกษตร และของหนีภาษีอีกหลายชนิด
จากการตรวจสอบ 6 จุดเจ้าหน้าที่พบที่บ้านเลขที่70 ม.4 ต.วังประจัน อ.ควนโดน ซึ่งเป็นบ้านของนายสอแล๊ะ หมาดทิ้ง อายุ 38 ปี บริเวณหลังบ้านมีถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรและ2พันลิตร ตั้งเรียงรายหลายถัง มีหัวจ่ายน้ำมันและมิตเตอร์ ส่วนด้านข้างของบ้านถูกขุดและฝังถังน้ำมันไว้ในดิน นอกจากนี้ยังพบรถดัดแปลงสำหรับบรรทุกน้ำมันอีก 2 คัน โดยนายสอแล๊ะให้การว่าน้ำมันดังกล่าวเอาไว้ใช้ใส่รถ 10 ล้อขนสินค้าที่รับจ้างบรรทุกของ รวมทั้งเติมรถของตนเอง เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาตั้งสถานีจ่ายน้ำมันโดยไม่ได้รับอนุญาติ ส่วนอีกจุดอยู่ห่างจากด่านพรมแดนวังประจันประมาณ 2 กม.ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีการจับกุมแล้วหลายครั้ง พบถังน้ำมันขนาด200 ลิตรและ 2พันลิตรตั้งเรียงรายพร้อมหัวจ่ายเช่นกันอย่างไรก็ตามสำหรับน้ำมันดีเซลเถื่อนที่เจ้าหน้าที่ยึดได้มีประมาณ 17,200 ลิตร น้ำมันเบนชิน จำนวน 1,300 ลิตร ทั้งนี้รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวว่าภารกิจในครั้งนี้ได้รับคำสั่งการจากนายกรัฐมนตรีและผบ.ทบ.และแม่ทัพภาค4ได้กำชับมาโดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีสินค้าทางการเกษตรลักลอบเข้ามาโดยเฉพาะน้ำมันพืชและหอมกระเทียม มีการสั่งห้ามนำเข้าเด็ดขาดจนกว่าจะทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศดีขึ้น ซึ่งการลักลอบนำเข้าสินค้าทางการเกษตรและสินค้าหนีภาษีตามแนวชายแดนถือเป็นการทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หากสกัดกั้นการลักลอบดังกล่าวได้ก็จะทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรในประเทศดีขึ้นรัฐบาลเองก็ได้นำภาษีที่ได้ไปแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล