ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าพบเด็ก 8 ขวบและ 13 ขวบ ออกช่วยแม่เก็บของเก่าตามถนนเลี้ยงชีพทั้งหลักเลิกเรียนเสาร์-อาทิตย์ เก็บขยะช่วยเหลือครอบครัวผู้สื่อข่าวได้ตามหา 3 แม่ลูกดังกล่าวทราบที่อยู่ของเด็กชายดังกล่าว ทราบว่า นส.ศรีไพร โตขำอายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ม.3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นส.ศรีไพรกล่าวว่าตนเองมีอาชีพเก็บของเก่าขายเลี้ยงตัวมาหลายสิบปีแล้ว หลักแยกทางกับสามี มีลูก 2 คน คนโต อายุ 21 ปี คนที่ 2 น้อง (ยอด) ดช.สรวิชญ์ กัณหารี อายุ 13 ปีอยู่ชั้น ม.1 รร.กบินทร์วิทยา ต่อมามีครอบครัวใหม่ มีลูก 1 คน อายุ 8 ปี (น้องเก่ง) ดช.ทวีทรัพย์ เจริญคง เรียนอยู่ชั้น ป.2 รร.วัดปากแพรก น้องยอดตอนอายุ 8 ขวบเล่นกับเพื่อนๆถูกเพื่อนผลักล้มหัวหาดพื้นสมองได้รับการกระทบกระเทือนไม่เหมือนเด็กทั่วไป สมองคิดการช้ากว่าเด็กคนอื่นๆ เวลาจะพูดจะทำอะไรมักจะคอยถามแม่ทุกครั้งเพราะไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรอย่างไร แม่ต้องบอกสอนให้ทำแบบนั้นแบบนี้ย้ำๆซ้ำๆเพื่อให้ลูกรับรู้ในการทำอะไร ส่วนลูกคนเล็กปกติเหมือนเด็กทั่วไป ตนเองมาฐานะไม่ดีนักก่อนหน้านี้ทำงานโรงงานแต่มีครอบครัวแล้วไม่ได้ทำงานออกมาเลี้ยงลูกโดยการเก็บของเก่าทั่วไปพอมีรายได้เลี้ยงตัวเองกับลูก วันธรรมดาจะคัดแยกของเก่าไว้รอเพื่อขายช่วงบ่ายๆลูกๆเลิกเรียนจะพากันขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมรถไสออกไปเก็บของเก่าตามถนนรอบๆ ถึงสี่แยกสามทหารและตามถนนการพาลูกออกไปเก็บของเก่าแบบนี้พอได้ของเก่ามารวมๆกันขาย 2-3 วันจะเอาไปขายส่งร้านรับซื้อของเก่าได้ครั้งละ500-800 บาท มีพวกแม่ค้าในตลาดสดเห็นตนและลูกชายเก็บของเก่าตามถังขยะสงสารจึงให้กับข้าว แกงถุง ปลา และไก่หรือหมูปิ้ง ทุกวัน ซึ่งแม่ค้าพ่อค้าได้ฟังเรื่องราวของลูกชายตนเอง เขาสงสารหลังจากตามมาดูที่บ้านและให้การการช่วยเหลือด้านอาหาร ตนรู้สึกอบอุ่นที่ยังมีคนเข้าใจ รักและสงสารลูกๆตนเองไม่เป็นไรลำบากไม่ท้อขอแต่ให้ลูกได้กินไปวันๆก็พอใจแล้ว จากการสอบถามพูดคุยกับน้องยอดน้องยอดบอกว่าโตขึ้นอยากทำงานเก็บขยะแบบนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงอยากเก็บขยะน้องยอดบอกว่า “เก็บขยะเป็นอาชีพที่สุจริต” เป็นคำตอบที่ฟังแล้วอึ่งตามไปด้วยแววตาและกิริยาท่าทางสามแม่ลูกไม่ได้คิดฝันไปไกลขอแค่มีงานทำเล็กๆน้อยๆพอมีรายได้เลี้ยงชีพไปวันๆแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ความขยันไม่มีวันอดตายเป็นอีกหนึ่งประโยคของผู้เป็นแม่ลูกชายคนรองแม้จะไม่เหมือนเด็กทั่วไปแต่ก็มีความพร้อมในการพัฒนาตัวทั้งร่างกายและจิตใจ ทุกวันจะพาลูกไปเก็บของเก่าห่างจากบ้าน 10 กว่ากลิโลเมตรไป-กลับ เดือนๆหนึ่งพอมีรายได้จากการเก็บของเก่าราว4พันบาทพอใช้ไปเดือนๆ มีบ้างคนให้เสื้อผ้ามาจะแบ่งให้คนที่มีฐานะพอๆกับตนเองไปบ้างตามกำลัง นางประมาณ แซ่เซียม แม่ค้าขายแกงกล่าวว่า มีแม่ค้าพ่อค้าด้วยกันมาเล่าให้ฟังว่าพบเห็นสามแม่ลูกออกหาเก็บของเก่าตามถังขยะรอบๆบขส.บ้างตามถนนบ้าง ตนอดสงสารไม่ได้แอบมาดักดูก็พบสามแม่ลูกเก็บของเก่าจริงจึงคุยด้วยและขอตามไปดูบ้าน ซึ่งนส.ศรีไพรไม่ขัดข้อง ได้ไปรู้ไปเห็นมากับตาเมื่อ 2 ปีที่ผ่ามาจึงบอกให้น้องยอดแวะมาเอากับข้าวที่แผงได้ทุกวัน มีเพื่อนๆพ่อค้าแม่ค้าให้กับข้าวอีก 1-2 ราย ด้วยความสงสารความมีมานะของเด็กสองคนนี้ ยอมรับความเป็นคนขยันและเป็นคนซื่อสัตย์ในสังคมไม่เคยมือไวใจเร็วโลภมากอยากได้ของคนอื่น ของที่ทิ้งแล้วเท่านั้นจะเก็บเอาไปขายอันไหนอยู่หน้าบ้านคนจะถามก่อนว่าใช้หรือไม่ทิ้งแล้วใช่ไหมถึงจะเก็บเอาใส่รถไสกลับไปเพื่อคัดแยกขายนางประมาณกล่าวทิ้งท้ายให้ฟัง…
ภาพ/ข่าว:ทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี/รายงาน…