หากเอ่ยถึงชื่อ “หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่” บรรดาเซียนพระเมืองระยองคงจะทราบกันเป็น
อย่างดี เซียนพระน้อยรายนักที่จะไม่รู้จักท่าน จะบอกว่าชื่อเสียงของท่านดังระดับประเทศก็คงไม่
เกินเลยนัก วัตถุมงคลที่ท่านได้ปลุกเสกไว้มากมายหลายรุ่นก็ล้วนมีประสบการณ์มามากมายนับ
ไม่ถ้วน ยากจะหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ได้
ในบทความนี้จะพามาดูพระเครื่องที่ท่านได้เคยมาร่วมปลุกเสก ร่วมกับเกจิชื่อดังอีกหลายท่าน
มีเรื่องเล่าจากชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าขณะทำพิธีอยู่นั้น น้ำมนต์ในบาตรถึงกับเดือดเลยทีเดียว
หากว่าเอ่ยถึงชื่อบ้านเพ เกาะเสม็ดแล้ว นักท่องเที่ยวน้อยรายนักที่จะไม่รู้จัก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ที่มีชื่อเสียงทางภาคตะวันออก อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯนัก ถ้าได้มาเที่ยวบ้านเพแล้ว จะต้องผ่านหรือ
พบเห็นวัดประจำตำบลซึ่งอยู่ระหว่างทางที่จะไปท่าเรือข้ามเกาะเสม็ดซึ่งก็คือ วัดเภตราสุขารมย์ นั่นเอง
หากกล่าวถึงวัตถุมงคลชื่อดังของวัดเภตราสุขารมย์ ก็คงหนีไม่พ้น สมเด็จสาวหลง ที่เลื่องชื่อ
ทางเมตตา มหาเสน่ห์แบบสั่งได้ สมเด็จสาวหลงรุ่นแรกนั้นมีส่วนผสมของผงกรุบางขุนพรหม
ที่เจ้าคุณในเมืองหลวงมอบให้ ผงพุทธคุณชั้นดีเพื่อสร้างพระจากคนในกรุงเทพนำมาถวาย ผงจาก
พระเกจิชั้นนำต่างๆที่ร่วมมอบให้ ผงพุทธคุณอื่นๆที่รวบรวมได้จากพระเกจิต่างๆในภาคตะวันออก
และผงของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ที่ท่านมอบให้เจ้าอาวาสมาโดยเฉพาะ
พิธีปลุกเสกได้เริ่มขึ้นในปี พศ.2508 โดยเจ้าอาวาสได้สรรหาพระเกจิชื่อดังในยุคนั้นมาร่วมพิธี เพื่อมิให้เสียชื่อพระรุ่นแรกของทางวัด ที่สู้อุตส่าห์สร้างขึ้นมาด้วยวิริยะอุตสาหะนานแรมปีด้วยแรงกายแรงใจของพระเณรในวัด
พระเกจิที่มาร่วมเสก10 รูปในพิธีครั้งนั้นประกอบด้วย
1.หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง จ.ระยอง เจ้าของสีผึ้งสีเขียวที่เลิศในด้านเมตตามหานิยม
2.หลวงพ่อทิม วัดไร่วารี (วัดละหารไร่) จ.ระยอง คณาจารย์ที่มีพลังจิตกล้าแข็งแห่งยุค
3.หลวงพ่อเจ้าคุณวรพรตฯ วัดป่า จ.ชลบุรี เจ้าของพระปิดตาเมตตามหานิยม
4.หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์ ศิษย์เอกหลวงพ่อเดิม
5.พระครูพิพิธวรญาณ (หลวงพ่อชื่น) วัดมาบข่า จ.ระยอง
6.พระครูภาวนานุโยค (หลวงพ่อหอม) วัดป่าเรไร จ.ระยอง
7. หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส อ.ขลุง จ.จันทบุรี
8.หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
9.หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน จ.ตราด
10.หลวงพ่อโต่ง เจ้าอาวาสวัดเภตราสุขารมณ์
พิธีปลุกเสกในครั้งนี้เจ้าอาวาสได้บอกกับเกจิทุกองค์ก่อนเข้าไปนั่งในโบสถ์ว่า นิมนต์เสกเอาแบบเต็มที่ไปเลย เอาให้ดีที่สุดเลย โดยคณาจารย์ทั้ง10 ท่านได้ใช้พลังจิตอันกล้าแข็ง ทุมเทกระแสจิตลงไปในวัตถุมงคลอย่างเต็มที่เพื่อให้วัตถุมงคลเหล่านั้น เพียบพร้อมไปด้วย อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ อุดมลาภผล และสามารถป้องกันตัวได้ ถือเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ของละแวกนั้น ที่ทำถูกต้องตามตำรับโบราณตลอดจนถึงพิธีทางไสยเวทย์ทุกประการ การปลุกเสกครั้งนี้จึงว่ากันแบบยาวนานและม้วนเดียวจบ องค์ใดกำหนดจิตปลุกเสกเสร็จแล้วก็ถอยออกจากสมาธิไปพักผ่อนก่อนได้เลย
เริ่มแต่ช่วงบ่ายแก่ๆพอแดดร่มลมตกไปเรื่อยๆจนเมื่อเริ่มจุดตะเกียงเจ้าพายุก็มีพระเกจิถอนจากสมาธิไปแล้วเกือบครึ่งและเดินทางกลับวัด และที่เหลือก็ยังนั่งปรกไปเรื่อยๆจนเกือบจะสองทุ่มก็เหลือเพียง 3 องค์ที่นั่งปลุกเสกนิ่งเงียบ คือ ลป.ทิม ระยอง ลพ.กล้วย และลพ.คง จันทบุรี โดยหลวงพ่อโต่งและกรรมการวัดได้คอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเจ้าอาวาสวัดและวัดจัดพิธีปลุกเสกเป็นครั้งแรก เมื่อถึงใกล้จะเที่ยงคืนย่างเข้าวันใหม่แล้ว ก็เหลือเพียงหลวงปู่ทิมเพียงองค์เดียวที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนอาสนะในโบสถ์มหาอุดหลังเก่าของวัด เมื่อเวลาล่วงเลยมามากขนาดนั้นแล้ว พระรูปอื่นๆก็เข้าพักผ่อนกันหมดสิ้น ท่านเจ้าอาวาสวัดเภฯก็เข้าไปปลุกเรียกหลวงปู่ทิม เพราะคิดว่าท่านอาจหมดสติหรือแข็งค้างจากการนั่งนานมากไปเพราะเวลาที่ท่านนั่งปลุกเสกก็เกิน6ชั่วโมงแล้วโดยไม่ขยับลุกเลย แต่เขย่าเรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น เพียงเนื้อตัวยังอุ่นยังเป็นปกติเท่านั้น จึงงับประตูโบสถ์หุบไว้เบาๆเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนหลวงปู่ทิมที่ยังนั่งอยู่ในโบสถ์เพียงองค์เดียว โดยมีชาวบ้านที่มาช่วยงานอีกสามสี่คนคอยเฝ้าอยู่เพื่อช่วยเหลือในเรื่องที่อาจมีขึ้น และทุกคนก็งีบหลับไปในเวลาดึกใกล้รุ่งโดยไม่รู้ว่า หลวงปู่ทิมออกมาจากโบสถ์ในเวลาใดและกลับไปวัดอย่างไร จนรุ่งเช้าเมื่อเปิดประตูโบสถ์และไม่เห็น ลป.ทิมที่เคยเห็นนั่งปลุกเสกในโบสถ์อยู่เมื่อตอนเที่ยงคืน ความตกใจโกลาหลจึงเกิดขึ้นกับคนชนบท แบบลือกันไปทั่วบางว่าท่านหายตัวได้ จนยังเป็นตำนานมาจนทุกวันนี้ เมื่อมีคนขี่รถเครื่องไปดูที่วัดไร่วารี บ้านค่าย จึงพบว่าท่านได้มาถึงวัดเรียบร้อยแล้วและก็ไม่มีคนรู้อีกว่า ท่านมาถึงในเวลาใด
และปลุกเสกอีกครั้งในปี พศ.2510 เรื่อยมาจนถึง พศ.2511โดย ใช้เนื้อเก่าที่เหลืออยู่จากการสร้างในครั้งแรก ตำผสมพระที่แตกหักจากที่สร้างในครั้งแรก ผสมด้วยว่านมหาเสน่ห์สาวหลงที่มีมากในแถบบ้านเพ แถบสัตหีบ และบางเสร่ เป็นพระผงที่เนื้อแน่นตัวมากกว่าครั้งแรกเพราะรู้วิธีทำให้พระสวยงามเนื้อแน่นไม่ร่วนยุ่ยฟูแบบครั้งแรก โดยผสมกาวและปูนเปลือกหอย ผงตะไบทองลงไปด้วย มีทั้งเนื้อดำผงใบลานและเนื้อขาวทั่วๆไป เป็นพิมพ์สมเด็จทั้งใหญ่ กลาง เล็กครบทั้ง 3ขนาด แต่เป็นพระที่ด้านหลังมียันต์กำกับไว้ทั้งสิ้นเพื่อให้แตกต่างจากครั้งแรก ทั้งยันต์อะ (ร-ร) ยันต์อุ และยันต์เฑาะว์อุข้าง (ยันต์สามแถว) โดยแม่พิมพ์ครั้งนี้ของยันต์อะ (ร-ร) จะเป็นแบบหัวตัว ร. กลวงเท่านั้น (จะมีการนำพิมพ์ไปสร้างครั้งต่อไปแต่หัวตัว ร.จะตัน) จำนวนที่สร้างค่อนข้างมากหลักพันองค์ แต่ไม่แน่ชัดว่ากี่องค์กันแน่ แต่มากกว่าที่สร้างในครั้งแรกเป็นเท่าตัว และยังสร้างรูปหล่อลอยองค์อุดกริ่งของหลวงพ่อทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ประจำวัดขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งด้วย มีสองแบบคือ บล็อคตัวหนังสือนูนและตัวหนังสือจม และเหรียญสี่เหลี่ยมด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อทอง หรือที่ชาวระยองเรียกพระรุ่นนี้ว่า เหรียญฝาบาตร เสร็จแล้วหลวงพ่อโต่งเจ้าอาวาสได้นิมนต์พระเกจิดังในเวลานั้นเข้าพิธีปลุกเสกในโบสถ์ของวัดเภฯ รวมหลวงพ่อโต่งเป็น 16 องค์พอดี
1 หลวงปู่ทิม วัดไร่วารี (วัดละหารไร่) จ.ระยอง
2 หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
3 หลวงพ่อวงษ์ วัดปริวาส จ.กรุงเทพฯ
4 หลวงพ่อหอม วัดซากหมากป่าเรไร จ.ระยอง
5 หลวงพ่อสน วัดตะเคียนทอง จ.ระยอง
6 หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า จ.ระยอง
7 หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือ จ.ระยอง
8 หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
9 หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
10 หลวงพ่อสวน วัดบางกระดาน จ.ตราด
11 หลวงพ่อกี๋ วัดแหลมมะขาม จ.ตราด
12 หลวงพ่อโต่ง วัดเภตราสุขารมย์ จ.ระยอง
13 ไม่ทราบชื่อ
14 ไม่ทราบชื่อ
15 ไม่ทราบชื่อ
16 ไม่ทราบชื่อ
พระเกจิอีก 4 องค์ที่เหลือนั้น ท่านผู้เล่าจำไม่ได้แน่นอนว่าเป็นใครบ้าง จึงขอละไว้ พิธีปลุกเสกครั้งนี้จัดขึ้นในโบสถ์หลังเดิมและมีการโยงสายสิญจน์ในพิธีไปยังด้านบนเพดานโบสถ์ที่เก็บพระผงสมเด็จสาวหลงที่สร้างในครั้งแรกปี 07-08ไว้ด้วย การปลุกเสกครั้งนี้ก็ว่ากันแบบม้วนเดียวจบเหมือนเคยและมีขึ้นในช่วงบ่ายไปจนเวลาค่ำจึงเสร็จสิ้นพิธี พระทั้งสองรุ่นในยุคแรกนี้มีประสบการณ์มากในทุกเรื่องและมีมานานแล้วโดยเฉพาะเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ที่แรงจริง ดีจริง
แหล่งข้อมูล
Facebook วัดเภตราสุขารมย์ ระยอง ,พระเครื่องวัดเภตราสุขารมย์