เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2558 สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นยืนยันพบคนงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ป่วยเป็นมะเร็งเป็นรายแรก หลังจากเกิดวิกฤตกัมมันตรังสีรั่วไหลเมื่อ 4 ปีก่อน
รายงานระบุว่า คนงานซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อรายนี้ มีอายุ 40 กว่าปี เข้าไปทำงานแก้วิกฤต-ฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2556 ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคีเมีย และการตรวจพบคนงานป่วยมะเร็งในครั้งนี้ ได้ตอกกลับคำเปิดเผยของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ที่ระบุเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า ไม่น่าจะมีคนได้รับผลกระทบทางสุขภาพอย่างชัดเจน จากภาวะกัมมันตรังสีรั่วไหลในพื้นที่ดังกล่าว
อย่างไรก็ดี รัฐบาลญี่ปุ่นจะจ่ายค่าชดเชยให้กับคนงานรายนี้ โดยครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาล และรายได้ที่สูญเสียจากการล้มป่วย โดยทางด้านกรมอนามัยของญี่ปุ่นได้เปิดเผยว่า “แม้ว่าจะไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าการป่วยเป็นลูคีเมียของคนงานรายนี้ จะเกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับรังสีหรือไม่ แต่เราก็จะรับรองให้เขาได้รับค่าชดเชยแรงงาน”
นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ไดอิจิ หลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ก็มีคนงานเข้าไปปฏิบัติการฟื้นฟูโรงไฟฟ้าแห่งนี้กว่า 45,000 คนแล้ว แต่มีการยืนยันว่าคนงานป่วยเป็นมะเร็งเพียง 1 คนเท่านั้น
ภาพจาก TOSHIFUMI KITAMURA / AFP
