ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่สมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่เลขที่ 98 หมู่ 13 ตำบลสระกรวด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในนามของสมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ได้ร่วมกับองค์กรสมาคมชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ ได้ประกาศขึ้นป้ายแสดงจุดยืน ข้อความว่า “ชาวไร่อ้อยขอคัดค้าน ร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับ กระทรวงอุตสาหกรรมที่ทำให้ชาวไร่อ้อยแตกแยก ถูกกลุ่มผลประโยชน์เข้าครอบงำ” ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ รายได้ และขบวนการในการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย รวมถึงความมั่นคง สามัคคี และความเป็นหนึ่งเดียวของสถาบันชาวไร่อ้อย โดยในที่ประชุมตอนแรกนั้น ทางสมาคมชาวไร่อ้อย มีกำหนดขึ้นป้ายข้อความดังกล่าว บริเวณพื้นที่สาธารณะแห่งหนึ่งที่มองเห็นเด่นชัด เพื่อแสดงจุดยืน คัดค้าน พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายพร้อมกันทั้งประเทศ
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอศรีเทพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเทพ และ เจ้าหน้าที่ทหาร ได้เดินทางมาที่สมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ เพื่อพบปะพูดคุย และทำความเข้าใจ พร้อมทั้งขอความร่วมมือไม่ติดตั้งป้ายข้อความขนาดใหญ่ ในพื้นที่สาธารณะเพื่อความเหมาะสม ซึ่งทางสมาคมฯเองก็ให้ความร่วมมือ โดยทำการติดตั้งป้ายข้อความ ในเขตพื้นที่ภายในสมาคมฯแทน
ทั้งนี้ นายถนอม โพธิกุล นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงว่า ทางสมาคมฯไม่ได้คัดค้าน พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ทั้งหมด แต่เนื้อหาสาระบางมาตรา ไม่เป็นไปตามความต้องการของชาวไร่อ้อย ซึ่งการเข้ามาของสถาบันสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร ที่ต้องการให้อยู่ใน พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย จำเป็นต้องใช้กติกาเดียวกับสถาบันสมาคมชาวไร่อ้อย ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องมีสมาชิกชาวไร่อ้อย ไม่น้อยกว่า 600 ราย และมีปริมาณส่งอ้อยเข้าหีบ 55% ของจำนวนอ้อยที่เข้าหีบทั้งหมด
และในขณะเดียวกัน เพื่อให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ได้ก้าวเข้าสู่การแข่งขันตามกฏการค้าของ WTO ชาวไร่อ้อยเองก็พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง แต่ต้องเป็นไปตามระบบแบ่งปันผลประโยชน์ 70:30 อย่างเป็นธรรม และสามารถเพิ่มรายได้ของชาวไร่อ้อยจากที่เคยขายน้ำตาลอย่างเดียว เป็นรายได้ที่มาจากผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาล และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง จากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เพื่อให้ชาวไร่อ้อย สามารถพัฒนาแข่งขันกับนานาประเทศ และมีเสถียรภาพด้านราคาอ้อยและรายได้ อย่างยั่งยืนในอนาคต ต่อไป
นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเพชรบูรณ์ กล่าวต่อว่า อยากวอนขอให้รัฐบาล ได้พิจารณาทบทวน พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับร่างกระทรวงอุตสาหกรรม ให้มีการแก้ไขบางมาตรา ที่ไม่เหมาะสม และมีผลกระทบกับชาวไร่อ้อย รวมถึงรายได้ของระบบอ้อย เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสถาบันชาวไร่อ้อย ให้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างสามัคคี และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ราเมธ บงแก้ว /มนสิชา คล้ายแก้ว เพชรบูรณ์