ทีมศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี และ สำนักข่าวเดลิซันเดย์ สำนักข่าว ข่าวสืบสวน ได้มีโอกาสร่วมงาน แนวคิดจะเพาะขยายพันธุ์ต้นจัน พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ยุคของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช. ท่านทรงปลูกเอาไว้ มีคุณค่า เชิงประวัติศาสตร์สมควรอนุรักษ์และเพาะขยายพันธุ์ เพาะ/ขยายพันธ์ต้นจันพระนารายณ์ รุกขมรดกแห่งแผ่นดินลพบุรี
ภายในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ มีต้นจันยืนตระหง่านคู่แผ่นดินลพบุรีมากว่า ๓๔๐ ปี อยู่บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งจันทรพิศาล ไม่ปรากฏหลักฐานการปลูกแน่ชัด จากการศึกษาขนาด รูปทรงและลักษณะของเปลือกไม้ รวมถึงภาพถ่ายเก่าการเด็จพระราชดำเนินพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศ ของ รัชกาลที่ ๔ –รัชกาลที่ ๖ ต้นจันต้นนี้มีต้นที่สูงใหญ่มากแล้ว และจากการเทียบเคียงกับต้นจันสมัยเดียวกัน คาดการณ์ว่า ปลูกสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มี ๒ ต้น ปัจจุบันเหลือเพียง ๑ ต้น คาดการว่าสมเด็จพระนารายณ์มหาราชน่าจะทรงปลุกต้นจันต้นนี้ขึ้นมาเอง เพราะพระองค์ท่านประสูติวันจันทร์ ประกอบกับพระองค์เป็นผู้ที่ชอบปลูกต้นไม้จึงได้ทรงปลูกต้นจันเอาไว้ ทำให้ต้นจันต้นนี้ถือเป็นต้นไม้ทรงคุณค่าเป็นอย่างมากของพระราชวังนารายณ์ จังหวัดลพบุรี และของชาติไทย สมควรที่คนไทย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจะได้เรียนรู้และภาคภูมิใจร่วมกัน
ในปี พ.ศ.๒๕๖๐ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินโครงการ “รุกขมรดกแห่งแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี” โดยรวบรวมเรื่องราวประวัติความเป็นมาและปูมหลังที่โดดเด่นน่าประทับใจของต้นไม้ในสถานที่ต่างๆ จากทุกภูมิภาคจำนวน ๖๕ ต้น แต่ละต้นแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในแต่ละภูมิภาคของไทยและสามารถสื่อเรื่องราวของต้นไม้ทรงคุณค่ามีอายุกว่า ๑๐๐ ปี เพื่อเผยแพร่ความรู้สู่เด็ก เยาวชน ประชาชน ให้รู้สึกรักต้นไม้และธรรมชาติ พร้อมทั้งรณรงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์ต้นไม้ไว้สู่คนรุ่นหลัง ขณะเดียวกัน เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัดต่างๆ ด้วย ซึ่ง “ต้นจันพระนารายณ์” ได้รับคัดเลือกให้เป็นรุกขมรดกแห่งแผ่นดินใต้ร่มพระบารมีด้วย
ด้วยการที่ “ต้นจันพระนารายณ์” รุกขมรดกแห่งแผ่นดินลพบุรี มีอายุมากกว่า ๓๐๐ ปี ควรได้รับการดูแลให้มีความแข็งแรงอยู่คู่กับวังนารายณ์ฯ ไปอีกนาน จึงได้นำ “รุกขกร” ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้ (หมอต้นไม้) มาร่วมดูแล เริ่มตั้งแต่การดูแลฟื้นฟูระบบราก ซึ่งต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยมีตารางการดูแลและฟื้นฟูอย่างเป็นระบบ
โดยปกติในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายนจะเห็นผลต้นจันเหลืองหอมและร่วงหล่นเกลื่อนดิน แต่เมื่อ“ต้นจันพระนารายณ์” รุกขมรดกแห่งแผ่นดินลพบุรี มีอายุมากกว่า ๓๐๐ ปี ซึ่งถือว่าชรามากแล้ว เริ่มออกดอกและติดผลน้อยลง โดยในปี พ.ศ.๒๕๖๑ ที่ผ่านมามีผลให้เห็นเพียงผลเดียวเท่านั้น ผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะชมรมรักษ์ต้นไม้จังหวัดลพบุรีที่มี อ.ผ่องศรี ธาราภูมิเป็นผู้ประสานงานจึงได้ดำเนินการอนุรักษ์ต้นจันพระนารายณ์ขึ้น โดยเก็บรวบรวมเมล็ดจันจากต้นจันพระนารายณ์ในปีที่ติดลูกมาก และรวบรวมเม็ดจันจากต้นอื่นๆ ในโบราณสถานต่างๆ ในจังหวัดลพบุรีที่พระเจ้าอยู่รัชกาลที่ ๔ ได้เคยบูรณะไว้ (เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดกวิศราราม บ้านวิชาเยนทร์ วัดตองปุ เป็นต้น) แล้วมอบให้ปราชญ์ด้านการเพาะต้นไม้ ๒ ท่าน คือ ครูสะอาด กล่อมสกุล (ดำบลหัวสำโรง อำเภอท่าวุ้ง) และนายสุดใจ ลาโม้ (ตำบลกกโก อำเภอเมือง) ช่วยกันเพาะเลี้ยงดูแล ประมาณ ๑ ปี จะได้กล้าต้นจันสูงราว ๑ ศอก มีขนาดเติบโตเพียงพอที่จะนำไปปลูกได้แล้ว ในขณะนี้เพาะกล้าไว้ได้มากพอสมควรแล้ว วัด โรงเรียน หน่วยงาน องค์กร หรือผู้สนใจที่มีที่ดินกว้างพอสมควรและประสงค์จะร่วมกันอนุรักษ์ “สายพันธุ์ต้นจันพระนารายณ์” นี้ไว้ให้เป็น “รุกขมรดกคู่แผ่นดินลพบุรี” ต่อไป โปรดติดต่อที่ อ.ผ่องศรี ธาราภูมิ
ใจรัก. วงศ์ใหญ่ ข่าว/ ชาติชาย ไข่หงส์ ภาพ/ ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี