วันที่ 15 ตุลาคม 2561 นายวัชระ เพชรทอง “อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” กล่าวถึงกรณี โครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าไม่แตกต่างอะไรกันเลยกับนโยบายประชานิยมของรัฐบาล “นายทักษิณ ชินวัตร” ที่ “พลเอกประยุทธ์” เคยด่าว่าไว้เลยแม้แต่น้อยเพราะ “นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” (รองนายกรัฐมนตรี) ในรัฐบาลชุดนี้คือ (รองนายกรัฐมนตรี) สมัย “นายทักษิณ” เป็น (นายกรัฐมนตรี) นั่นเองจึงสามารถลอกเลียนแบบได้อย่างแนบเนียนมีทั้งขัอดีและข้อเสียติดตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้นข้อดีนั้นคือดูเสมือนว่าเงินลงไปถึงมือชุมชน ข้อด้อยคือตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของระบบราชการและการทุจริตจะเป็นทวีคูนภายใต้อำนาจของม.44 เพียงแต่ว่ารอเวลารัฐบาลชุดนี้จะหมดอำนาจเท่านั้นเอง การทุจริตต่างๆก็จะเปิดเผยยิ่งกว่าดอกเห็ด
โครงการไทยนิยมยั่งยืนคือโครงการเอาเงินภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศไปหว่านโปรยทุกหมู่บ้านนับแสนๆล้านบาท ยิงตรงหมู่บ้านละ 2 แสนบ้าง ผ่านบัตรโครงการสวัสดิการคนจนให้ไปซื้อที่ร้านประชารัฐปีละกว่า 5 หมื่นล้านบาทบ้าง ยิ่งใกล้เลือกตั้งก็จะลดแหลกแจกแถมเติมเงินให้ยิ่งกว่าซานตาครอส ทั้งนี้มีเป้าหมายเดียวที่ว่า เพื่อหาคะแนนนิยมให้กับพลเอกประยุทธ์ให้สืบทอดอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหน้าชัดๆ
ประเทศชาติจะเสียงบประมาณจะฉิบหายไม่ว่าขอให้นายข้าเป็น นายกฯขอให้ คสช. ได้สืบทอดอำนาจก็พอนั้นอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้วยหรือรัฐบาลต้องทบทวนโครงการประชานิยมแบบนี้ว่าจะส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนคนยากจนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้คะแนนเสียงของพลเอกประยุทธ์เพียงอย่างเดียวไม่ว่ารัฐบาลจะทุ่มงบประมาณเพิ่มมากขึ้นอีกกี่แสนล้านบาทในช่วงไตรมาสสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งแต่ถ้ายังกดหัวพี่น้องประชาชนด้วยอำนาจเผด็จการเศรษฐกิจและการเมืองแบบนี้ก็ไม่อาจจะเอาชนะใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศได้ อาจเป็นเพียงการถูกใจชั่วขณะของบรรดาลิ่วล้อพรรคการเมืองในเครือข่ายของ คสช. เท่านั้น….
—————–