วันนี้(9 ตุลาคม 2561 ) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายสมภพ สมิตะสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายสรพงษ์ เบ๊ะกี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสระบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมจัดเลี้ยงอาหารเช้าให้กับคณะเยาวชนภาคใต้และครอบครัวอุปถัมภ์ ตามโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้” รุ่นที่ 34 ก่อนที่คณะทั้งหมดจะเดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดสระบุรี อาทิ การผลิตอาหารฮาลาลของบริษัท ซี พี เอฟ ประเทศไทย อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จุดเริ่มต้นอาชีพพระราชทานการเลี้ยงโคนม เยี่ยมชมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนดินกักเก็บน้ำยาวที่สุดในประเทศไทยตามแนวพระราชดำริ และวัดมงคลชัยพัฒนา ต้นกำเนิดแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แห่งแรกของประเทศไทย โดยการจัดเลี้ยงอาหารในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัวอุปถัมภ์และเยาวชนจากพื้นที่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้มีโอกาสมาอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี มาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2561 ทั้งนี้ จังหวัดสระบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้มอบเงินดำเนินงานให้แก่ครอบครัวอุปถัมภ์ พร้อมกล่าวต้อนรับและมอบของที่ระลึกแก่เยาวชน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้กล่าวกับคณะเยาวชนว่า ในการเดินทางไปศึกษาดูงานในครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้วิถิชีวิต สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ และเก็บเป็นประสบการณ์ชีวิตเพื่อเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม ประเพณีวัฒนธรรม ในพื้นที่ภาคกลาง โดยสามารถที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัวอุปถัมภ์ รวมทั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ ให้เกิดความรักและความสามัคคีที่ดีต่อกัน และอยากให้เยาวชนทุกๆคน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และ นำประสบการณ์ความรู้ที่ได้ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
จังหวัดสระบุรีได้รับเกียรติเข้าร่วมโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้มาแล้ว 29 รุ่น คือตั้งแต่รุ่นที่ 3 ปี พ.ศ. 2549 ถึงรุ่นที่ 33 ปี พ.ศ. 2561 รวมเยาวชน 644 คน โดยได้รับความอนุเคราะห์จากครอบครัวอุปถัมภ์ทั้งในเขตพื้นที่อำเภอต่างๆในพื้นที่สระบุรี
สำหรับในรุ่นที่ 34 นี้จะเป็นรุ่นที่มีเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอิสลามมาอยู่ร่วมกันกับครอบครัวอุปถัมภ์ที่จังหวัดสระบุรี โดยมีครอบครัวอุปถัมภ์ในพื้นที่อำเภอวิหารแดง จำนวน 5 ครอบครัว อำเภอหนองแคจำนวน 8 ครอบครัว ที่ดูแลเยาวชนที่ดูแลเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งได้รับมอบเยาวชนมาจำนวน 26 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 14 คน จากจังหวัด ยะลา ปัตตานี สงขลา นราธิวาส และสตูล ซึ่งเยาวชนจะพักอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ และศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม จนถึงวันที่ 23ตุลาคม พ.ศ. 2561
/ภาพข่าว ดำรงค์ ชื่นจินดา ผู้สื่อข่าวสระบุรีรายงาน