ผู้สื่อข่าวรายงานมาจากจังหวัดลพบุรีว่า เมื่อเมื่อวันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2561 ที่ผ่านมานั้นทางอาสาสมัครกู้ภัยสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ ได้นำอาสาสมัครกู้ภัยเข้าร่วมกิจกรรมและร่วมประชุมรวมพลังกู้ชีพกู้ภัยจิตอาสาไทยใจเป็นหนึ่งเดียว ครั้งที่ 3 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(ม.ท.ส.) จังหวัดนครราสีมา คณะกรรมการสมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินทางไปที่นครราชสีมาเพื่อเข้าร่วมประชุมดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์สมาคมกู้ภัยสงเคราะห์โคกสำโรง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวตอนหนึ่งว่า ทางสมาคมได้รับเชิญและให้เกียรติมาร่วมแสดงอุปกรณ์กู้ภัยในครั้งนี้ด้วย สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์ องค์กรการกุศลที่มีบทบาทด้านการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติครั้งที่ 3 “ รวมพลังกู้ชีพกู้ภัย จิตอาสาไทย ใจเป็นหนึ่งเดียว ” โดยมีภาคีเครือข่ายองค์กรการกุศลที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งเป็นผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานรวม 3 พันคน สังกัดมูลนิธิ สมาคมและหน่วยงานที่ดำเนินงานกู้ชีพกู้ภัยทั่วประเทศ จำนวน 254 แห่ง ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ รับฟังการบรรยายให้ความรู้และทำความเข้าใจพร้อมนำเสนอนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการกู้ชีพกู้ภัยของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด รวมทั้งการจัดแสดงนิทรรศการและการสาธิตการกู้ชีพกู้ภัย ด้าน นายประวิทย์ อัศวินชัย ประธานมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ในฐานะตัวแทนเครือข่ายองค์กรการกุศล เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2551 กำหนดให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติมีบทบาทในการบริหารจัดการ ประสานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินร่วมกันทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการคุ้มครองสิทธิในการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม มีคุณภาพมาตรฐาน โดยได้รับการช่วยเหลือและรักษาพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ ในขณะที่สถานการณ์การเจ็บป่วยฉุกเฉินและสาธารณภัยของประเทศ มีความหลากหลายและซับซ้อนมาก มีระดับความรุนแรงเกินที่หน่วยงานเพียงหน่วยงานเดียวจะดำเนินการได้ ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งการกู้ชีพและกู้ภัยจากหลากหลายหน่วยงาน ทำให้การช่วยเหลืออย่างเป็นระบบมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อการเสียชีวิตและพิการของประชาชน
ภาคีเครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉินภาคเอกชน มูลนิธิและสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมไทยในยามที่ประชาชนทุกข์ยาก เพื่อตอบแทนพระคุณแผ่นดินรวมถึงการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินได้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล จึงจัดการประชุมการแพทย์ฉุกเฉินขององค์กรการกุศลต่อเนื่อง เป็นปีที่ 3 เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีองค์ความรู้งานการแพทย์ฉุกเฉินและสร้างความเข้มแข็ง ความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการพัฒนาการกู้ชีพกู้ภัยของประเทศไทย ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งในภาวะปกติและภาวะประสบภัยพิบัติ นายประวิทย์ ฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์
ใจรัก วงศ์ใหญ่ ข่าว/ สำนักข่าวเดลิซันเดย์ สมชาย เกตุฉาย ภาพ / ศูนย์ข่าว 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี