นักศึกษาเทคโนโลยีละโว้ ลพบุรี สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ทำชื่อเสียงให้ จังหวัดลพบุรี ที่สามารถผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการสิงห์อาร์อินเทิรน รุ่น 8 กับบริษัทบุญรอดริวเวอรี่ เป็นบริษัทชั้นนำในเมืองไทย ด้าน อาจารย์พรทิพย์ โพธิ์บัว ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ ลพบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ทางคณะผู้บริหาร วิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ คณะอาจารย์ ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ ที่สร้างชื่อเสียง ให้กับทางจังหวัดลพบุรี ที่สามารถผ่านเกณฑ์ การคัดเลือกเข้าร่วมโครงการสิงหฺ์อาร์อินเทิรน รุ่นที่ 8 กับบริษัทชั้นนำของเมืองไทย บริษัท บุญรอดริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งในปีนี้ถือเป็น ความสำเร็จของวิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ ที่สามารถสนับสนุนให้นักศึกษาผ่านเข้าโครงการ ได้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวได้รับทราบชื่อภายหลังว่า นายชาญวิทย์ ดอกจันทร์ นักศึกษา ปวส 1/5 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่สามารถผ่านเกณฑ์คัดเลือกเข้าร่วมโครงการสิงห์อาร์อินเทิรนฯ ความภาคภูมิใจ ที่ทางบริษัทบุญรอด ฯ เหลือตนเองเข้าร่วมโครงการดังกล่าว อาจารย์พรทิพย์ โพธิ์บัว ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ลพบุรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า Singha Biz Course เน้นสัมผัสประสบการณ์จริง
สำหรับโครงการ Singha Biz Course จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการฝึกงานของบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 3 และ 4 จากทุกสถาบันทั่วประเทศ ไม่จำกัดสาขาวิชา ได้ใช้ช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน เข้ามาเรียนรู้การทำงานจริง เรียนรู้กลยุทธ์ความสำเร็จจากผู้บริหารระดับสูงของสิงห์ พร้อมด้วยกูรูชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ ไม่ใช่แค่ทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง เพื่อให้นักศึกษาทุกคนได้พัฒนาศักยภาพของตนเอง เตรียมพร้อมสำหรับการก้าวสู่โลกการทำงานจริงอย่างมืออาชีพในอนาคต โดยโครงการฯ จะเปิดรับนักศึกษาจากทั่วประเทศ และคัดเลือกจากการสอบ รวมทั้งสิ้น 50 คน
ทั้งนี้ นักศึกษาที่เข้ามาฝึกงาน จะไม่ใช่แค่ถ่ายเอกสาร หรือแค่พิมพ์งาน แต่จะได้เรียนรู้ถึงการทำงานจริง จากผู้บริหารระดับสูงในแต่ละสายงานของสิงห์ ผลัดเปลี่ยนกันมาให้ความรู้แก่เด็กๆ ที่ร่วมโครงการ ซึ่งการมาร่วมฝึกงานในครั้งนี้ นับเป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับกลุ่ม Gen Y ในปัจจุบัน ที่ความต้องการเข้าทำงานกับบริษัทที่มั่นคง ผลตอบแทนคุ้มค่า รวมทั้งมีโอกาสเติบโตในองค์กร ไม่เฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น “สิงห์” จึงเป็นบริษัทที่ตอบโจทย์พวกเขาเหล่านั้น
พบเส้นทางของตัวเอง พร้อมก้าวสู่การทำงานจริง
ทั้งนี้ โครงการฯ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งที่นักศึกษาทุกคนจะได้กลับไปก็คือ ความรู้ที่ไม่มีอยู่ในห้องเรียน ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากต่อการทำงานในอนาคต และตลอดระยะเวลา 9 สัปดาห์ที่ได้สัมผัสการทำงานจริง ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ก็จะเข้าใจตัวเองมากขึ้น ว่าจริงๆ แล้วงานที่ทำอยู่ตอนนี้เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากความรู้ที่ได้รับแล้ว ทุกคนก็จะได้มิตรภาพดีๆ จากเพื่อนร่วมรุ่นอีก 49 คนด้วย
จากที่กล่าวมาทั้งหมด คงพอจะเข้าใจกันแล้วว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงอยากเข้ามาทำงานกับสิงห์ เพราะสิงห์เป็นองค์กรที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ รู้ว่าพวกเขาชอบเรียนรู้ด้วยตัวเอง ชอบลงมือทำมากกว่าให้คนอื่นสอน การปล่อยให้พวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์จริง ก็จะทำให้เกิดแรงกระตุ้นที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าคนรุ่นอื่นๆ ทุกกิจกรรมที่สิงห์ล้วนเป็นการวางรากฐานให้คนรุ่นใหม่เกิดการรับรู้ และส่งต่อสิ่งดีๆ ไปยังผู้บริโภค ซึ่งคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้จะกลายเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้
ในช่วงใกล้จะสำเร็จการศึกษาของทุกปี ก็เป็นธรรมดาที่เราจะเห็นนักศึกษาในชั้นปีที่ 3 และ 4 ยื่นใบสมัครเพื่อขอฝึกงานในองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการฝึกงานนี้เอง ที่จะเป็นการเตรียมความพร้อม สู่การลงสนามทำงานจริง
หากสอบถามนักศึกษาจบใหม่ในเวลานี้ ว่าพวกเขาต้องการทำงานที่ไหนมากที่สุด ส่วนใหญ่ก็จะเลือกทำงานในเมืองใหญ่ มากกว่าต่างจังหวัด และต้องเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีสวัสดิการดี และมีค่าตอบแทนคุ้มค่า ซึ่งตรงกับผลสำรวจองค์กรที่อยู่ในใจนักศึกษา มากที่สุดของเว็บไซต์ Jobnisit ที่ได้ร่วมมือกับ เอเชีย อินเทิร์นชิพ โปรแกรม Asia Internship Program (AIP Global)ทำการสอบถามนักศึกษา และคนรุ่นใหม่กว่า 15,000 คน จาก 35 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ซึ่งครอบคลุมไปด้วยคณะวิชาสาขาต่างๆ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ นิติศาสตร์ บริหารธุรกิจ ศิลปกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อค้นหาว่า กลุ่มคน Gen Y (นักศึกษาจบใหม่) ต้องการร่วมงานกับองค์กรใดมากที่สุดในปีนี้ ซึ่ง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด (หรือที่รู้จักกันในนาม “สิงห์”) ก็ได้รับการจัดอันดับมาเป็นลำดับที่ 3 ด้วยคะแนนโหวต 6.2%
ส่วนหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาหรือคนรุ่นใหม่เลือกสิงห์ เป็นองค์กรที่อยากร่วมงานด้วย ด้วยภาพลักษณ์ขององค์กรของสิงห์ที่มีความเป็นของตัวเอง มีความมั่นคง เป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 80 ปี แต่ก็ยังปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ทั้งยังเป็นองค์กรเอกชนของคนไทยที่ก้าวไปประสบความสำเร็จกับการเป็น “Global Brand” ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากความสำเร็จของแบรนด์แล้ว สิงห์ยังมีภาพที่ชัดเจนในการเป็นองค์กรทีให้การสนับสนุนและพัฒนาในอีกหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านกีฬา สิงห์เองอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาไทยมามากมาย
ด้านกิจการเพื่อสังคม “สิงห์ ปาร์ค เชียงราย” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจแบบ Social Enterprise ที่มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของคนในสังคมเป็นหลัก ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรตอบแทน แต่ต้องการทำให้ที่นี้เป็นแหล่งการเรียนรู้เชิงเกษตร และสร้างงานให้ชุมชนโดยรอบ จนถึงทุกวันนี้ สิงห์ ปาร์ค ก็เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของชาวเชียงราย ในส่วนของการช่วยเหลือสังคม สิงห์มีหน่วยงาน “สิงห์อาสา” ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ ที่พร้อมที่จะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ผู้ที่เดือดร้อน ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย และที่สำคัญคือเรื่องของการศึกษา สิงห์ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กับประเทศมาโดยตลอด ภายใต้แนวคิด “คุณภาพคน คุณภาพสังคม” อาทิ โครงการ “ทุนบุญรอดพัฒนานิสิตนักศึกษา” ซึ่งเป็นทุนให้เปล่า จนสำเร็จการศึกษาแบบไม่ต้องใช้ทุน ที่ดำเนินการมากว่า 33 ปี และที่ถือเป็น insight โดนใจเหล่านักศึกษา Gen Y สุดๆ กับโครงการฝึกงานรูปแบบพิเศษ “Singha Biz Course” ที่เกิดจากแนวคิดของ คุณปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารระดับสูงของสิงห์ฯ. อาจารย์พรทิพย์ โพธิ์บัว. ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีละโว้ลพบุรีกล่าวทิ้งท้ายในที่สุด
ใจรัก วงศ์ใหญ่ ข่าว/ สมชาย เกตุฉาย สำนักข่าวเดลิซันเดย์ ภาพ/ ศูนย์ข่าว 5 เหล่าทัพ. จังหวัดลพบุรี