นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่าในวันที่17 กันยายนนี้ ทางพรรคประชาธิปปัตย์จะจัดประชุมคณะผู้บริหารพรรค โดยจะมีการพิจารณาร่างข้อบังคับพรรคใหม่นำไปสู่การรับสมัครสมาชิก การสรรหาผู้สมัคร และการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค การจัดตั้งสาขาพรรค หลังจานั้นเมื่องพิจารณาแล้วในวันที่24 กันยายน จะมีการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้การอนุมัติและพิจารณาข้อบังคับพรรค เมื่อผ่านที่ประชุมใหญ่แล้ว ก็จะมีการดำเนินการตามข้อบังคับต่อไป ซึ่งการดำเนินการตามข้อบังคับพรรคที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการเลือกหัวหน้าพรรค การดำเนินการของพรรคนับจากนี้ต่อไป ต้องการที่จะสร้างสรรค์พรรคประชาธิปปัตย์ยุคใหม่ สร้างประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าที่ก้าวหน้า การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคโดยหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง เพื่อให้สมาชิกมีส่วนร่วมทางการเมือง การพัฒนาประชาธิปไตยในยประเทศชาตินั้นเป็นประโยนช์ต่อประเทศมากมาย คือการหยั่งเสียงครั้งนี้นั้นสืบสานอุดมการณ์ของพรรคที่ยึดมั่นการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมาหากษัตืทรงเป็นปประมุข ส่งเสริมกระบวนการประชสธิแปไตยภายในภรรค ที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้าประชาธิปไตยภายในประเทศ สร้างสรรค์วัฒนธรรมประชาธิปไตยให้อยู่คู่กับพรรคประชาธิปัตย์และสังคมไทยอย่างมีคุณค่า เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน สนองต่อการปฏิรู)การเมืองให้เป็นรูปธรรมใฝห้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากประชุมแล้วจะเริ่มการรับสมัครสมาชิกใหม่ และจัดตั้งสาขาพรรค เชิญชวนประชาชนมาสมัครสมาชิกพรรค
พร้อมกันนี้ กล่าวถึงคำสั่งคลายล็อคครั้งนี้ ว่าระบุห้ามใช้โซเซียลหาเสียง อยากให้คสช หารือกับกกต. ทับทวนการใช้โซเชียวในการสื่อสารกับประชาชน เพราะการกำหนดกว้างๆ เป็นการไม่เอื้อต่อการพัฒนาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่สังคมได้พัฒนาไปมากแล้ว แต่ในทางกลับกันกลับพยายามที่จะห้ามในการสื่อสารในส่วนนี้ เปิดโอกาสให้ใช้เทคโนโลยีโซเชียวมีเดียในการสื่อสารถึงประชาชน ซึ่งการใชเโซเชี่ยวนั้นไม่สามารถทำให้ก่อให้เกิดความไม่มั่นคงได้ และหากมีผู้ดำเนินการผิดกฎหมายก็มีกฎหมายที่จะมารองรับอยู่แล้ว
///////////////
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวถึงกรณีที่มีการเสนอชื่อ นพ.วรงค์ เข้ามาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะมีผู้เสนอตัวหรือสมาชิกคนอื่นจะเสนอใครขึ้นมาสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ได้ โดยเฉพาะการเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการ ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์เลือกหัวหน้าพรรคกันอย่างโปร่งใส และดำเนินการในลักษณะนี้ทุกครั้ง ทำให้พรรคได้รับการยอมรับจากประชาชน
นอกจากนนี้ การเลือกตั้งหัวหน้าครั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ และเชื่อว่าทุกคนจะเคารพมติจากประชาชน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างกว้างขวางโดยใช้แอพพลิเคชั่นเข้ามาช่วย ซึ่งสิ่งนี้เป็นการดำเนินการภายในพรรคเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายอีกทั้งไม่ได้ใช้โซเชี่ยวในการหาเสียง แต่เป็นเพียงกิจกรรมภายในพรรค โดยไม่ขัดต่อกฎหมายหรือคำสั่ง คสช.แต่อย่างใด ทั้งนี้การเลือกหัวหน้าพรรคจะมีความชัดเจนประมานเดือนพฤษจิกายนว่าใครจะได้นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์