วันที่ 5 กันยายน 2561 นายวัชระ เพชรทอง “อดีต.สส.พรรคประชาธิปัตย์” กล่าวถึงกรณี กระทรวงแรงงานจะเก็บเงินค่าประกันสังคมเพิ่มขึ้นจากเดือนละ 750 บาทเป็นเดือนละ 1,000 บาท เท่ากับเพิ่มขึ้น 33% หรือเพิ่มขึ้นปีละถึง 3,000 บาทนั้นนับเป็นเงินที่มากนัก ผม จึงไม่เห็นด้วยอย่างสิ้นเชิงขอคัดค้านแนวคิดที่จะเก็บเงินผู้ประกันตน รายเดือนๆละ 1,000 บาท เพราะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ประกันตนกว่า 15 ล้านคน ทันที พี่น้องมนุษย์เงินเดือนเหล่านี้ลำบากยากแค้นแสนเข็ญมากเพียงพออยู่แล้ว แต่ละเดือนชักหน้าไม่ถึงหลัง กินมาม่า เช้าเย็นนายจ้างก็ตัดสวัสดิการโน่นนี่นั่น ค่าแรงก็ไม่ขึ้น โอทีก็ลด อดมื้อกินมื้อ แถมข้าวของก็แพง เศรษฐกิจแย่ โรงงานเจ๊ง ร้านค้าปิดกิจการเป็นแถบๆผมจึงขอคัดค้านนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทน์โอชา และ “จะยื่นหนังสือ” ขอคัดค้านต่อไป
ในฐานะ ผม เคยดำรงตำแหน่ง (อดีตโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ) ทราบว่าเงินกองทุนประกันสังคมสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” มีการอนุมัติให้นำเงินกองทุนชีวิตของผู้ใช้แรงงานไปเล่นหุ้นหรือลงทุนทำให้กองทุนประกันสังคมเสียหายไปจำนวนมาก และ ปัจจุบันเงิน ณ.วันที่ 31 มีนาคม 2561 กองทุนมีเงินสะสมมากถึง 1,809,225 ล้านบาท จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะเก็บเงินประกันตนเพิ่มแม้แต่บาทเดียว
ในสายตาของผู้บริหารประเทศอาจมองว่าอะไรกันจะเก็บเพิ่มแค่เดือนละ 250 บาท จะเป็นจะตายกันหรือไร ท่านผู้มีอำนาจคงไม่เข้าใจว่าเงินดังกล่าวซื้อนมให้ลูกได้ถึงครึ่งกระป๋อง ซืัอมาม่าประทังชีวิตไปได้หลายวัน และถ้าเก็บเพิ่มทั้งปี จากเดิมที่จ่ายรวมปีละ 9,000 บาท จะเพิ่มเป็นปีละ 12,000 บาท เท่ากับเพิ่มมากขึ้นถึง 3,000 บาท มันมากเหลือเกินอย่าเพิ่งให้ประชาชน 15 ล้านคน มารับภาระในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้เลยจึงควรจะยกเลิกแนวนี้ทันทีและควรรีบไปสอบสวนหาผู้รับผิดในอดีตมาลงโทษและเรียกค่าเสียหายชดใช้คืนกองทุนมากกว่าและรวมทั้งควรออกกฎหมายห้ามนำเงินกองทุนมาใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือมาใช้หาคะแนนนิยมทางการเมือง.
—————-