“อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” กล่าวถึงกรณี “สนช.” ผ่านร่าง “พรบ.” งบประมาณ พ.ศ.2562 ( จำนวนเงิน 3 ล้านล้านบาท ) ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง ลงมติอนุมัติงบประมาณ นั้น.
วันที่ 2 ก.ย.61 นายวัชระ เพชรทอง อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี สนช.ผ่านร่างพรบ. งบประมาณ พ.ศ.2562 จำนวน 3 ล้านล้านบาท นั้นในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ลงมติอนุมัติงบประมาณนั้น ว่าถ้าประชาชนทั้งประเทศมีความพึงพอใจและต้องการให้รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ ใช้จ่ายงบประมาณซึ่งมาจากภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศโดยไม่มีการตรวจสอบเราก็ไม่อาจทัดทานความต้องการของประชาชนได้แต่เท่าที่ฟังเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน แต่ “ประชาชน” พวกเขานั้นรู้สึกอึดอัดและต้องการให้มีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินงบประมาณของพวกเขาว่าเป็นไปเพื่อประชาชนทั้งประเทศหรือเพียงเพื่อหมู่คณะของ คสช. เท่านั้น
งบประมาณ 3 ล้านล้านบาท สูงที่สุดนับแต่มีประเทศไทย แต่ข่าวคาวการคอร์รัปชั่นก็มากที่สุดนับแต่มีรัฐบาลมาตั้งแต่พ.ศ.2475 หาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา “นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.” จะมาย้อนถามว่ามีทุจริตตรงไหนให้ยื่นหลักฐานมา
ผม นายวัชระ เพชรทอง “อดีต.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” ได้ส่งหลักฐานการทุจริตให้ไปตั้งแต่ “ปีมะโว้ แล้ว” ตั้งแต่เรื่องข้าราชการ ทุจริตงบคนจน ในกระทรวง พ.ม. การทุจริตใน ธนาคาร Sme. แบ๊งค์ การทุจริตในขสมก.ของกระทรวงคมนาคมการทุจริตการจองบประมาณ Ict. ของ รัฐสภาใหม่ เป็นต้น
ในงบประมาณปี 2562 จำนวน 3 ล้านล้านบาท ผมยื่นหนังสือคัดค้านมการจ่ายค่าโง่ในคดีกล้ายางมีการตั้งงบประมาณไว้ถึง 211 ล้านที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสงสัยถึงการจัดงบประมาณซื้อดาวเทียม 782 ล้านบาท ที่สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (จีสด้า) โดยอ้าง มติคณะรัฐมนตรี แต่ ปรากฎข่าวที่ไม่ชอบมาพากลนั้นรวมถึงงบผูกพันการจัดซื้อเรือดำน้ำของ กองทัพเรือ ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงการจัดงบประมาณตามใจผู้มีอำนาจใน คสช. ทั้งสิ้น
คสช. ควรคำนึงว่าแม้คณะ คสช. จะยิ่งใหญ่มีอำนาจสูงสุดมากกว่าอำนาจบริหาร ตุลาการและนิติบัญญัติก็ตาม แต่อำนาจท่านก็เหมือนยาทั่วไปที่ต้องมีวันหมดอายุ แล้วเมื่อท่านหมดอำนาจ หากท่านจัดสรรงบประมาณไม่เที่ยงธรรมเช่น บอกว่าเห็นใจคนจนรักคนจนให้คนจนคนละ 200 บาท แล้วท่านเอาเงินแผ่นดินให้เจ้าสัวทีละ 200 ล้านบาท ระวังท่านจะไม่มีแผ่นดินอยู่เหมือน นายทักษิณ ชินวัตร ส่วน สนช. ที่ไม่กล้าอภิปราบตัดงบประมาณแม้แต่บาทเดียวนั้น เพราะสนช.ทั้งหลายคือลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาของพลเอกประยุทธ์ คสช. แต่งตั้งมาทั้งสิ้นแล้วใครจะกล้าตัดงบประมาณของ “เจ้านาย” ผู้มีพระคุณหากพูดไม่เข้าหูหรือ “นั่งหลับ” ในที่ประชุมอาจอดเป็น ส.ว. แต่งตั้งสมัยหน้าได้ง่ายๆ สนช. จึงไม่ใช่แเพียงแค่เป็นสภาตรายางหรือสภาฝักถั่วเท่านั้น เพราะสนช.ปัจจุบันจึงไม่แตกต่างอะไรกับผ้าเช็ดท็อปบู้ทให้แวววาวดูอร่ามงามสะอาดตา.