กองทัพรัฐบาลยูเครนในเมืองสลาเวียนสก์ ที่ความตึงเครียดกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยังคงรุนแรง
รัสเซียเริ่มดำเนินการถอนทหารออกจากพื้นที่ติดชายแดนทางตะวันออกของประเทศยูเครนแล้ว
โดยรมว.กลาโหมสหรัฐฯ และเลขาธิการนาโต ต่างออกมากล่าวชื่นชมกับเรื่องนี้…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ว่า รัสเซียเริ่มดำเนินการถอนทหารจำนวนเกือบ
40,000 นาย ออกจากพื้นที่ติดชายแดนทางตะวันออกของประเทศยูเครนแล้ว ถือเป็นสัญญาณ
ว่ารัสเซียเริ่มลดระดับการเผชิญหน้ากับยูเครน ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่การถอดถอนอดีตประธานาธิบดี
วิคเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน เมื่อเดือนก.พ. แต่ต่อเนื่องด้วยเหตุกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ลุกฮือขึ้นก่อการในภายตะวันออกของยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเรื่องการถอนทหารออกจากชายแดนยูเครน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. โดยระบุว่า กองทัพได้เสร็จสิ้นการฝึกซ้อมทางทหารแล้ว
นายชัค เฮเกล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การถอนทหาร
และยุทโธปกรณ์ของรัสเซียเป็นความหวัง แต่เสริมว่ารัสเซียควรถอนทหารที่ถูกส่งมาประจำการ
ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่เดือนมี.ค.ทั้งหมด “เราทราบแล้วว่าทหารหลายพันนายของรัสเซียถอนกลับ
และเคลื่อนย้ายออกไปแล้ว แต่เราก็รู้ด้วยว่า ยังมีทหารรัสเซียอีกหลายพันนาย
ที่ยังไม่เคลื่อนย้ายออกไป” นายเฮเกลกล่าว
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯนายหนึ่งระบุว่า มีข้อบ่งชี้จากภาพถ่ายดาวเทียมและแหล่งข่าว
กรองอื่นๆ ว่ากองทัพรัฐบาลบริเวณชายแดนยูเครนกำลังเก๊บข้าวของและเคลื่อนย้ายออกไป
เป็นกลุ่มใหญ่ บางจุดทหารกำลังขนรถหุ้มเกราะขึ้นรถราง อันเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังจะกลับ
ไปยังฐานที่มั่นซึ่งห่างจากชายแดน แต่ยังเหลือกองทหารอีกอย่างน้อย 7 กลุ่ม
จำนวนหลายพันนายปักหลักอยู่ใกล้ชายแดน
ขณะเดียวกัน นายอานัส ฟอว์ ราสมุสเซน เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ
(นาโต) กล่าวในการประชุมสมาชิกชาติพันธิมิตรที่ประเทศลิธัวเนียว่า ทหรรัสเซียจำนวนประมาณ
2 ใน 3 ส่วน กำลังเตรียมตัวถอนกำลังออกจากชายแดนยูเครน แต่ย้ำว่ายังเหลือทหารรัสเซยี
ค่อนข้างมาก ที่พร้อมจะเคลื่อนไหว หากได้รับคำสั่ง และเรียกร้องให้รัสเซียยุติการสนับสนุนกบฏ
ฝักฝ่ายรัสเซีย และปิดชายแดนเพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ข้ามพรมแดน
ทั้งนี้ สหรัฐและนาโตเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนยูเครน
ความยาว 1,400 ไมล์มานานหลายสัปดาห์ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของสถานการณ์ในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดในยูเครนกลับเพิ่มขึ้น หลังจากเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพรัฐบาลกรุงเคียฟ
ถูกฝ่ายกบฏยิงตกเมื่อวันอังคาร จนมีทหารเสียชีวิต 12 นาย