นายไพโรจน์ คงลำพูน อายุ 61 ปี เจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่กว่า 60 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านน้ำเขียว ต.กองทูล อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เดิมทีตนทำงานอยู่ในบริษัทฯแห่งหนึ่ง พอปลดเกษียณจากงานประจำ จึงอยากทำสวนเป็นของตนเอง ประกอบกับพื้นเพเป็นคนจังหวัดสุราษธานี จึงน้อมนำแนวทางหลักเกษตรทฤษฏีใหม่ เข้ามาปรับใช้ในพื้นที่ทำกิน ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นไร่มันสำปะหลัง ทั้งหมด 60 ไร่ โดยแบ่งขุดสระส่วนหนึ่ง สำหรับเก็บกักน้ำ จากนั้นได้สั่งซื้อต้นปาล์มน้ำมันมาจากภาคใต้ ในราคาต้นละ 150 บาท มาปลูกไว้ทั้งหมดกว่า 1,000 ต้น และคอยดูแลรักษามาโดยตลอด
แต่เนื่องจากสภาพภูมิอากาศในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่เหมือนกับทางภาคใต้ เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ความชื้นน้อย จึงได้นำต้นกล้วย มาปลูกแซมไว้ในสวนปาล์มน้ำมัน เพื่อช่วยเพิ่มความชื้น ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาด ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความชื้น ให้ต้นปาล์มเจริญเติบโตได้ดีแล้วนั้น ยังสามารถนำผลผลิตจากต้นกล้วย ไปจำหน่ายสร้างรายได้เสริม ระหว่างรอเก็บผลผลิตปาล์มได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายไพโรจน์ คงลำพูน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสวนปาล์มน้ำมันของตน มีอายุครบ 3 ปีเศษ และได้ออกผล ให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตไปจำหน่ายได้เป็นปีแรก จึงนำคนงานเข้ามาดำเนินการเก็บผลปาล์ม เพื่อนำไปส่งขายที่ลานรับซื้อในพื้นที่ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ในราคา กิโลกรัมละ 3.20 บาท โดยสวนปาล์มน้ำมันนั้น จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี หรือ ใน 1 เดือน สามารถเก็บผลปาล์มจำหน่ายได้ราว 2 ครั้ง ซึ่งนับเป็นการลงทุนครั้งเดียว ที่คุ้มค่า ให้ผลตอบแทนแก่เกษตรกร ระยะยาวกว่า 25 ปี เลยทีเดียว
ราเมธ บงแก้ว /มนสิชา คล้ายแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์