เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน รับแจ้งจากพลเมืองดีโทรศัพท์เข้าห้องสืบสวนบอกเบาะแส ว่า มีบุคคลต้องสงสัยเพศหญิงตัดผมสั้น อายุราว 30-35 ปี เดินวนไปมาคล้ายคนเมายาเสพติดและยังมีพฤติกรรมด้อมๆ มองๆ ชะโงกหน้าเข้าไปดูตามห้องต่างๆ ภายในอัญเชิญฉัตรอพาร์ทเม้นท์ ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กทม.จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง และ พ.ต.ต.นพดล คงสัตรา สว.สส.สน.บางขุนเทียน กำลังฝ่ายสืบสวนรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบหญิงดังกล่าวในสภาพเบลอเดินไปมาทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.สุพัตรา หรือ “จุ๊บแจง” สุวรรณศร อายุ 34 ปี จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับเองว่า เพิ่งเสพยาบ้ามาหมาดๆ และปัจจุบันพักอาศัยอยู่กับสาวทอมที่เพิ่งคบหากัน ในห้องเช่าเลขที่ 3A7 ชั้น 3 ของอาคารดังกล่าว เมื่อชุดจับกุมขยายผลขึ้นไปตรวจสอบ ที่ห้องพักก็พบ น.ส.นันทิภาคย์ หรือ “เป้ย” ปานจร อายุ 36 ปี สาวทอมเจ้าของห้องเช่า พร้อมยาบ้าวางอยู่ตรงหน้าจำนวน 5 เม็ด โดย น.ส.นันทิภาคย์ ยอมรับว่ายาบ้าทั้ง 5 เม็ดนั้น เป็นของตนเองหาเงินจากการรับจ้างวิ่งรับส่งเอกสารนำเงินมาซื้อเอาไว้เสพเอง ไม่เกี่ยวข้องกับ น.ส.สุพัตรา แฟนสาวแต่อย่างใด
ทั้งนี้เมื่อตรวจค้นในห้องพักอย่างละเอียดยังพบ ยาบ้า จำนวน 19 เม็ด กับไอซ์ 1 ซองเล็กน้ำหนักประมาณ 1 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระปุกออมสินสีชมพูแบบใส่รหัสของ น.ส.สุพัตรา วางอยู่ที่หัวเตียงนอน นอกจากนั้นยังพบกล้องดิจิตอล 4 ตัว โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 14 เครื่อง นาฬิกาข้อมือ 40 เรือน พระเครื่อง 26 องค์ กระเป๋าถือ 51 ใบ และตั๋วฝากขายทองรูปพรรณ 4 ใบ ซุกเอาไว้ใต้เตียงนอนและในตู้เสื้อผ้าโดยเชื่อว่า ทรัพย์สินทั้งหมดนั้นน่าจะได้มาครอบครองอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงตรวจยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ แล้วเชิญตัวทั้ง น.ส.สุพัตรา และ น.ส.นันทิภาคย์ ทอมคู่ขามาสงบสติอารมณ์ ทำการแยกสอบปากคำและดำเนินคดีที่ห้องปฏิบัติการฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน
จากการสอบสวน น.ส.สุพัตรา ยอมรับว่า เมื่อปี 2552 เคยถูกจับดำเนินคดีลักทรัพย์และจำหน่ายยาบ้า ติดคุก นาน 8 ปี ได้รับอิสรภาพออกมาเมื่อเดือน ส.ค.60 จากนั้นก็ไปอาศัยอยู่ในย่านบางพลัด ยึดอาชีพหมอนวดจับกษัยเส้นตามบ้านลูกค้า ช่วงไหนเงินขาดมือไม่มียาบ้าและไอซ์เสพก็จะเดินเท้าไปหาตระเวนลักทรัพย์ตามห้องเช่า อพาร์ทเม้นท์หรือบ้านพักที่เจ้าของนอนหลับพักผ่อนโดยไม่ปิดหรือไม่ล็อกประตูยามค่ำคืน เมื่อสำรวจดูลาดเลาว่าเจ้าของห้องหรือเจ้าของบ้านหลับสนิทก็จะย่องเข้าไปลักทรัพย์ออกมา เมื่อได้ทองรูปพรรณ ข้าวของมีค่าก็จะนำไปขายที่ร้านรับซื้อย่านวงเวียนใหญ่ บางพลัด และมีนบุรี โดยครั้งที่ลงมือแล้วได้ทรัพย์สินมากที่สุดคือเมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ย่องเข้าไปลักทรัพย์ที่ร้านเสริมสวยย่านจอมทอง ได้ทองคำแท่ง ทองรูปพรรณ และพระเลี่ยมทอง น้ำหนักรวมกว่า 13 บาท นำไปขายซื้อยาเสพจนเงินหร่อยหรอ ก่อนมาพบรักกับ น.ส.นันทิภาคย์ ทอมคู่ขาแล้วตัดสินใจย้ายข้าวของมาอยู่ด้วยกันได้ราวๆ 3 เดือน
ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า ดูจากแผนประทุษกรรมของ น.ส.สุพัตรา น่าจะก่อเหตุลักทรัพย์มาหลายครั้งในหลายพื้นที่หากผู้เสียหายรายใดสงสัยเคยตกเป็นเหยื่อขอให้เดินทางมาดูของกลางได้ ซึ่งในส่วนของ สน.บางขุนเทียน นั้นมีผู้เสียหาย 3-4 ราย ที่เคยถูกลักทรัพย์ในช่วงเวลา 6-7 เดือนที่ผ่านมา เข้าชี้ตัวผู้ต้องหาพร้อมยืนยันทรัพย์สินของตัวเองแล้ว เบื้องต้นชุดจับกุมจึงแจ้งแก่ น.ส.สุพั ตรา ว่า มียาบ้าและไอซ์ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ และลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน ส่วน น.ส.นันทิภาคย์ ทอมคู่ขาซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่า ถูกแจ้งข้อหามียาบ้าในความครอบครองเพื่อเสพ ก่อนนำตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร (เครดิต) ภาพข่าว
> cr.ป๋าหรั่ง/ฝั่งธน “หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย”
> ธีรพล ปลื้มถนอม “ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ” รายงาน