วันนี้ วันอังคารที่ 24 ก.ค.61 เวลา 13.00 น.ที่ ลานฝึก อคฝ.บช.น. : พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น.และ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น.ร่วมกันแถลงข่าว ศปจร.น., บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น.6 จับกุมแก๊งลักรถยนต์ในเขตพื้นที่ บก.น.9 ยึดรถยนต์ของกลางได้จำนวน 4 คัน และของกลางอะไหล่รถยนต์หลายรายการ จากนั้นได้มีการมอบกุญแจรถยนต์คืนให้แก่ผู้เสียหายด้วย
โดย ศปจร.น.บุกจับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ รายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 คนประกอบด้วย นายถิรภัทร หรือจ่าง ถิรธนพานิชย์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.8 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี จำนวน 6 คดี 6 หมาย และตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 คดี 2 หมาย รวมหมายจับทั้งสิ้น จำนวน 8 หมายจับ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร” นายจีรยุทธ หรือเต้ ถิรธนพานิชย์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.8 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี จำนวน 4 คดี 4 หมาย และตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 2 คดี 2 หมาย รวมหมายจับทั้งสิ้นจำนวน 6 หมาย ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร” และ นายสงกรานต์ หรือกร อายุ 18 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี จานวน 2 คดี 2 หมาย ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร”
พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่าเนื่องด้วยในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้ายออกตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมก ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมก สีดำ และสีเทา เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและสังคมเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปราบการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตารวจนครบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ตารวจกองกำกับสืบสวน กองบังคับการตารวจ นครบาล 6 กองบัญชาการตำรวจนครบาล จึงได้ร่วมกันทำการสืบสวนจนพบว่ากลุ่มคนร้ายที่ออกตระเวนก่อเหตุ ลักทรัพย์รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมก ดังกล่าวคือกลุ่มของ นายถิรภัทร หรือจ่าง ถิรธนพานิชย์, นายจีรยุทธ หรือเต้ ถิรธนพานิชย์ บุตรชาย และ นายสงกรานต์ ถิรธนพาณิชย์ บุตรชาย
จึงได้ทาการสืบสวนจนพบว่าบุคคลทั้งสามคนได้หลบหนีมาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 132 ม.7 ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา และได้ใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นจุดซุกซ่อนรถยนต์ และทาการชำแหละรถยนต์ ก่อนจะนำอะไหล่ที่ชำแหละเสร็จเรียบร้อยแล้วไปขายยังร้านรับ ซื้อของเก่าภายในเชียงกง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหายอมรับว่าพวกตนได้ออกตระเวน ก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง มาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน โดยจะเลือกลักรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมก แบบแคป โฉมช่วงปีระหว่าง ปี 2005 – 2011 เนื่องจากเคยเป็นช่างและมีความชานาญกับรถยนต์ ยี่ห้อ และรุ่น ดังกล่าวเป็นอย่างดี
โดยเมื่อทำการชำแหละเสร็จเรียบร้อยแล้วจะนำอะไหล่ไปขายที่เชียงกง โดยแยกเครื่องยนต์ออกไปขายเป็นอันดับแรก โดยเครื่องยนต์จะขายได้อยู่ในราคา 40,000-50,000 บาท ซึ่งถ้าทำการแยกอะไหล่ทั้งคันออกขายทั้งหมดกลุ่มของตนกับลูกชายอีก 2 คน จะได้รายได้เฉลี่ยคันละประมาณ 70,000–80,000 บาท เป็นอย่างต่ำ และทั้งสามคนพ่อลูกจะพากันทำการออกตระเวนก่อเหตุลักรถยนต์ เดือนละประมาณ 3-5 คัน โดยใน ช่วงเดือน กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตารวจจับกุมได้
นายถิรพัทธ สารภาพว่าตนกับลูกชายอีก 2 คน และครอบครัว ไม่มีใครได้ประกอบอาชีพใดๆ เงินที่ใช้ในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้านค่ากินอยู่และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็เป็นเงินที่ได้มาจากการก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์ดังกล่าวทั้งสิ้น ส่วนรถยนต์ทั้ง 4 คัน ที่ได้ใช้ขับขี่อยู่ในชีวิตประจำวันซึ่งตรวจค้นได้ภายในบ้านหลังดังกล่าว ก็เป็นรถยนต์ที่ลักมาจากพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของนายถิรภัทร หรือจ่าง ถิรธนพานิชย์ และนายจีรยุทธ หรือเต้ ถิรธนพานิชย์ บุตรชาย พบว่าเคยถูกจับกุมดาเนินคดีและจำคุกในคดีลักทรัพย์รถยนต์มาแล้ว และในขณะนี้ นายถิรภัทร หรือจ่าง ถิรธนพานิชย์ ก็ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ในคดีลักทรัพย์รถยนต์ระหว่างการประกันตัว โดยในขณะนี้ นายถิรภัทร หรือจ่าง ถิรธนพานิชย์, นายจีรยุทธ หรือเต้ ถิรธนพานิชย์ (บุตรชาย) และนายสงกรานต์ ถิรธนพาณิชย์ (บุตรชาย) ทั้ง 3 คน ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดสมุทรสาคร และศาลอาญาธนบุรี รวมกันทั้งสิ้น จานวน 16 หมายจับ อีกด้วย
นอกจากนี้ตำรวจยังตามยึดรถยนต์กระบะ และซากรถยนต์กระบะ ได้ 5 คัน โดยทำการลักในพื้นที่ของ สน.ท่าข้าม จานวน 3 คัน สน.บางขุนเทียน จานวน 3 คัน และ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ อีกจานวน 1 คัน ซึ่งตำรวจได้ประสานเจ้าของให้มารับรถคืน พร้อมฝากเตือนประชาชนที่ใช้รถกระบะ ที่เป็นที่ต้องการของตลาดมืด ให้เพิ่มความระมัดระวังในการจอดรถและควรหาอุปกรณ์ในการป้องกันการถูกโจรกรรม หากประชาชนพบเบาะแสคนร้ายเกี่ยวกับการโจรกรรมรถยนต์ สามารถโทรแจ้งตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งมายัง ศูนย์ ศปจร.น. โทร. 1192 หรือ 02-537-8102
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน