เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา พร้อมด้วยคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติ จอห์น เอฟ. เคนเนดี นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เวลาประมาณ 10.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 11 ชั่วโมง) ของวันที่ 24 ก.ย. โดยมีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และภริยา ให้การต้อนรับ
ด้าน พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ได้รายงานถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ และความร่วมมือระหว่างกันว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น เป็นสัญญาณทางบวก โดยดูจากความร่วมมือต่าง ๆ ที่มีมากขึ้นเกือบเท่าระดับปกติ ทั้งความร่วมมือด้านการศึกษา พาณิชย์ ความร่วมมือด้านการทหาร และความมั่นคง ซึ่งนายกฯ พร้อมที่จะแก้ข้อขัดข้องต่าง ๆ และจะให้ความช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ทั้งด้านการค้าการลงทุน การศึกษา การเกษตร อุตสาหกรรม รวมทั้งส่งเสริมปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้อต่อความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-1 ต.ค.
จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปยังโรงแรมวัน ยูเอ็น นิวยอร์ก ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก โดยมีคนไทยในสหรัฐฯ รอให้การต้อนรับ พร้อมแผ่นป้ายให้กำลังใจ และได้มอบหนังสือให้นายกฯ พร้อมมอบดอกไม้ให้นางนราพร และกล่าวให้กำลังใจ บางคนระบุว่า “นายกฯเป็นความหวังครั้งสุดท้าย” ซึ่งนายกฯ ถึงกับอึ้ง แต่ก็กล่าวติดตลกว่า “ทำให้ผมรู้สึกกดดัน และขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ เพราะทุกคนที่สนับสนุนตน หรือไม่สนับสนุนตน ต่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน”
ต่อมาเวลา 15.00-16.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายกฯ เป็นประธานการประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ (ทีมไทยแลนด์) โดยนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ได้กล่าวรายงานว่า มีความซาบซึ้งใจที่นายกฯให้ความสำคัญ ด้วยการเลือกให้นโยบายกับทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ เป็นวาระแรก เพื่อให้เรามีโอกาสรับฟังรายงานจากนายกฯโดยตรง มั่นใจว่าเมื่อกลับเมืองไทย ก็จะไม่มีโอกาสรับฟังอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ ซึ่งทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ทั้งหมด 82 คน เป็นพลเรือน 65 คน และทหาร 17 คน
ทั้งนี้สำหรับกำหนดการในวันนี้ ( 25 ก.ย.) นายกฯ จะเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี 2015 (โพสต์ 2015 ซัมมิท) ร่วมกับผู้นำประเทศกว่า 193 ประเทศทั่วโลก และกล่าวถ้อยแถลงใน Interactive dialogue 1 : “Ending poverty and hunger” ก่อนที่จะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งจัดโดยสภานักธุรกิจสหรัฐฯ- อาเซียน (ยูเอสเอบีซี)
ที่มา เดลินิวส์