ที่บริเวณคลองสำโรงหมู่ 4 บ้านไร่เหนือ ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ นายประทิน นาคสำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “กำจัดผักตบชวาอย่างยั่งยืนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ตามแนวทาง “ประชารัฐร่วมใจ คลองสวยน้ำใส ไร้ผักตบชวา” ร่วมกับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 16 จ.เพชรบูรณ์ และชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นางอรวรรยา หุ่นทอง ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย นายไพศาล โภคา รองปลัด อบต.สะเดียง พันเอกสุพัฒน์ กลิ่นชาติ รองผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 16 นำคณะผู้บริหาร – สมาชิกสภา อบต.สะเดียง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 16 และสมาชิกชมรมคนรักในกลวงจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร่วมพิธีเปิดฯ
นาย ประทิน นาคสำราญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง ได้กล่าวว่า กิจกรรมกำจัดผักตบชวา ตามโครงการ “กำจัดผักตบชวาอย่างยั่งยืนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ตามแนวทาง “ประชารัฐร่วมใจ คลองสวยน้ำใส ไร้ผักตบชวา” เป็นกิจกรรมที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่นและท้องที่ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันขับเคลื่อน เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวาในแม่น้ำสายหลัก และแหล่งน้ำสาธารณะ ทั้งที่เป็นแหล่งน้ำปิด และแหล่งน้ำเปิด รวมทั้งพื้นที่เหนือเขื่อนต่างๆ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้ดำเนินการขับเคลื่อนการกำจัดผักตบชวา ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติ โดยดำเนินการในรูปแบบของ “ประชารัฐร่วมใจ” ซึ่งมีการสำรวจแบ่งพื้นที่ และหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ไม่ซ้ำซ้อน ซึ่งทุกหน่วยงานได้ระดมสรรพกำลัง เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์และบุคลากรเข้าดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายตามแผนงานที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมในรูปแบบของประชารัฐอย่างยั่งยืน
ทังนี้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง กล่าวอีกว่า ผักตบชวาเป็นวัชพืชที่สร้างปัญหาต่อแหล่งน้ำหลายประการ อาทิ การกีดขวางเส้นทางสัญจรทางน้ำ การสร้างปัญหาต่อระบบชลประทานและการประมง เป็นต้น และด้วยธรรมชาติของผักตบชวาที่สามารถขยายพันธุ์และแพร่กระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ปัญหาในเรื่องผักตบชวา สร้างปัญหาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญทางสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ความร่วมมือร่วมใจที่เกิดขึ้นในวันนี้ จึงเป็นหนึ่งในพลังสำคัญที่ประชาชน หน่วยงานภาคเอกชน และหน่วยงานราชการ ร่วมกันสานพลังตามแนวทางประชารัฐ เพื่อบรรเทาและกำจัดปัญหาผักตบชวาให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย ซึ่งเรามีความเชื่อมั่นว่าหากเราทุกคนยังมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับผักตบชวาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดปัญหาผักตบชวา ก็จะหมดสิ้นไปจากประเทศไทย
มนสิชา คล้ายแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์