เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 61 เวลา 14.00 น. ที่สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1,พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม ชุดจู่โจมและสืบสวน สน.ชนะสงคราม และตร.ท่องเที่ยว ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม สองผู้ต้องหาชาวปากีสถาน ร่วมกันลักทรัพย์สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท จากร้านทองในจ.สุราษฏร์ธานี แล้วหลบหนีมากบดานย่านถนนข้าวสาร
ด้วยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61 เวลาประมาณ 13.30 น.ได้มีคนร้ายลักษณะเป็นชายชาวต่างชาติ จำนวน 2 คน (ทราบชื่อภายหลังคือ Mr.Allah Bakhsh และ Mr.Muhamad Bashis ทั้งสองสัญชาติปากีสถาน ได้เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ ได้สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 5 บาทราคา 120,000 บาท จำนวน 1 เส้น แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่ร้านทองแม่มาลี 7 เลขที่ 273/6 ถ.หน้าเมือง ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์
เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายใช้รถยนต์เช่าคันหมายเลขทะเบียน 5 กน 9633 กทม.เป็นพาหนะ ที่ใช้ในการกระทำความผิดและนำมาจอดไว้ที่บริเวณหลังศึกษาภัณฑ์ พื้นที่สน.ชนะสงคราม และได้ประสานข้อมูลกับ พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม สั่งการให้ชุดจู่โจม และชุดสืบสวนของสน.ชนะสงคราม เฝ้าสังเกตุบริเวณจุดจอดรถ และออกตามหาบริเวณเกสท์เฮาส์ ห้องเช่าและสถานประกอบการในพื้นที่ จนในที่สุดพบคนร้ายทั้ง 2 คน บริเวณถนนข้าวสาร จึงเชิญตัวมาที่ สน.ชนะสงคราม และพบของกลางมี
1. ในตัว Mr.Muhammad Bashir พบ
– ธนบัตรรัฐบาลไทย รวม 41,420 บาท
– ธนบัตรรัฐบาลปากีสถาน 340 เหรียญ
– นาฬิกา Rado เรือนทอง
– โทรศัพท์ 2 เครื่อง
– หนังสือสัญญาเช่ารถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อโตโยต้า คันหมายเลขทะเบียน 5 กน 9633 กทม.
2.ในตัว Mr. Bakhsh Allah พบ
– สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น
– ธนบัตรรัฐบาลไทย รวม 10,000 บาท
– ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ 200 เหรียญ
– ธนบัตรรัฐบาลปากีสถาน 530 เหรียญ
จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สส.ภ.จว.สุราษฎรธานี ทำการจับกุมตัว แจ้งข้อกล่าวหา นำผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน