นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์)
ของไทยที่ประจำอยู่ทั่วโลกในประเด็นเกี่ยวกับบทบาทภารกิจและแนวทางการทำงานของทูตพาณิชย์
ด้านการติดตามกฎระเบียบทางการค้า ซึ่งพบว่าจนถึงเดือน เม.ย.57 ไทยถูกใช้และถูกไต่สวนจาก
มาตรการทางการค้า ทั้งการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) มาตรการตอบโต้การอุดหนุน (ซีวีดี)
และมาตรการปกป้อง (เซฟการ์ด) รวม 94 กรณี โดยสินค้าไทยถูกใช้มาตรการดังกล่าวส่วนใหญ่
เป็นสินค้าอุตสาหกรรมจำพวกเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์, เหล็กและผลิตภัณฑ์, เคมีภัณฑ์,
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม, ผลิตภัณฑ์จากยางพารา เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึงการติดตามประเด็นกฎระเบียบทางการค้านำเข้า-ส่งออกสินค้า
ในประเทศต่างๆ โดยเกาหลีใต้หารือถึงประเด็นการเปิดตลาดนำเข้าไก่สดจากไทย หลังจากไทย
ปลอดจากการระบาดของไข้หวัดนกมานานแล้ว เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตาม
ความคืบหน้า, สหรัฐฯ ประเด็นการค้ากับแรงงาน (การค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก และแรงงานบังคับ)
โดยมีแนวทางการแก้ไขคือ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้นำเข้า ผู้บริโภคได้รับทราบถึงการเร่งแก้ไขปัญหา
ของไทยว่าเป็นวาระแห่งชาติ ที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ปัญหา
ส่วนอินโดนีเซียใช้มาตรการควบคุมการนำเข้าสินค้าผักผลไม้และพืชสวนของไทย ที่ขณะนี้กำลัง
ติดตามความคืบหน้า, เมียนมาร์ ประเด็นกระทรวงอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ของเมียนมาร์
ออกประกาศห้ามส่งออกไม้ซุงท่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณากระบวนการ
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการส่งออกไม้แปรรูป เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภูมิภาคเอเชียใต้มีการใช้มาตรการต่างๆกับไทยสูงสุด 26 กรณี แบ่งเป็นมาตรการเอดี
23 กรณี โดยอินเดียใช้มากสุด 18 กรณี ส่วนมาตรการซีวีดีจากปากีสถาน 1 กรณี.