เจ้าหน้าที่กู้ภัยวังโป่งรวมใจ ได้รับการร้องขอ จาก นายทวี ศรีระวัตร อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านวังศาล ว่าให้ช่วยกำจัดรังต่อหัวเสือ และ รังผึ้ง ซึ่งแอบมาทำรังอยู่ข้างกัน บนตัวบ้านชั้นสอง หวั่นคนในครอบครัว โดยเฉพาะหลานชายและหลานสาว วัย 3-4 ขวบ จะได้รับอันตราย
จึงทำการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ รุดไปยังที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่130/1 หมู่12 ต.วังหิน อ.วังโป่ง จ.เพรชบูรณ์ พบเป็นบ้านปูน ลักษณะ 2 ชั้น โดยบริเวณระเบียงหลังบ้านชั้น 2 พบรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่เท่าลูกมะพร้าว แอบทำรังอยู่ใต้จักรเย็บผ้า ซึ่งตั้งอยู่ติดกำแพงบ้าน และห่างกันออกไปราว 3 เมตร เจ้าหน้าที่ยังพบรังผึ้งขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25-30 ซม. ทำรังอยู่ตรงราวตากผ้า สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร
เบื้องต้น ได้กันผู้ไม่เกี่ยวข้อง ให้ออกห่างจากบริเวณดังกล่าว เนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากฝูงต่อหัวเสือและฝูงผึ้งได้ ก่อนวางแผนเข้ากำจัดรังต่อหัวเสือเป็นอันดับแรก โดยการใช้ไบกอน ฉีดพ่นเข้าไปที่รังต่อหัวเสืออย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้ถุงปุ๋ยคลุมให้มิดชิด และรีบทำลายรังต่อหัวเสือขนาดใหญ่ ซึ่งพบว่ามีตัวต่ออยู่ข้างในเป็นจำนวนมาก บางส่วนก็พยายามบินสวนออกมา แต่ก็ถูกไบกอนฉีดทำลายจนตาย จากนั้นได้เข้าทำลายรังผึ้ง โดยการใช้ควันเป่าให้มึนเมา และนำออกมาทำลายได้สำเร็จ ใช้เวลาปฏิบัติการทั้ง 2 ภารกิจ กว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งขณะเดียวกัน พบว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดนต่อต่อยเข้าที่มือ ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
นายทวี ศรีระวัตร อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านวังศาล เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ราว 2 เดือน ได้ออกไปตากผ้าหลังบ้าน ได้สังเกตเห็นรังอะไรกลมๆ อยู่ตรงใต้จักรเย็บผ้า ก่อนพบว่าเป็นรังต่อหัวเสือ ซึ่งช่วงแรกก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ยังคงใช้ชีวิตปกติ และออกไปตากผ้าเป็นบางครั้ง กระทั่งผ่านมาถึงขณะนี้ กลับพบว่ารังต่อหัวเสือ มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเท่าลูกมะพร้าว หนำซ้ำข้างกัน ยังพบว่ามีฝูงผึ้งมาทำรังตรงที่แขวนผ้าจนมีขนาดใหญ่ ทำให้คนในบ้าน โดยเฉพาะหลานทั้งสอง เริ่มพากันหวาดผวา หวั่นจะได้รับอันตรายจากฝูงต่อหัวเสือและฝูงผึ้งดังกล่าว จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยวังโป่งรวมใจ กระทั่งรอเวลาเหมาะสม เข้ามาดำเนินการกำจัดรังต่อหัวเสือและรังผึ้ง ได้สำเร็จ สร้างความสบายใจแก่ตนและคนในบ้าน ที่ไม่ต้องมาหวาดระแวงอีกต่อไป
เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์