นายวัชระ เพชรทอง “อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” ทำหนังสือยื่นถึง “ผอ.สำนักงบประมาณ” กรณีอย่าทำผิดกฎหมายในเรื่อง “งบ ICT ก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ 8,600 ล้านบาท”
นายวัชระ เพชรทอง (อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์) กล่าวว่า ตนในฐานะ (อดีตโฆษกกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร) ได้ยื่นหนังสือถึง นาย เดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา (ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ) ในเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดกรณี สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ของบประมาณโครงการ (ระบบไอซีทีของอาคารรัฐสภาใหม่) เพิ่มเติม 8,600 ล้านบาท จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
> 1. สำนักงบประมาณเห็นด้วยกับการเสนอของบประมาณเพิ่มเติม 8,600 ล้านบาทหรือไม่ เพราะเหตุใด
> 2. สำนักงบประมาณได้ตรวจสอบการของบประมาณเพิ่มเติมที่มีลักษณะ”โป่งโพง”หรือไม่ และมีงบจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์ที่มีราคาสูงจนผิดปกติ เช่น ราคาไมโครโฟน ตัวละ 120,000 บาท!หรือไม่
> 3. มีการจัดซื้อเครื่องปรับอากาศเพิ่มเติม และการใช้ไฟฟ้าที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ คิดแบบการใช้ไฟฟ้า 2 อำเภอรวมกัน ทั้งที่แบบที่ผ่ายการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติและครม. เป็นการอนุมัติงบประมาณภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ต้องเป็นอาคารเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน
นายวัชระ กล่าวต่อว่า ตนได้ส่งสอบถามไปยัง ผอ.สำนักงบฯ ว่าเคยสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจสอบและประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( ทส.) ว่าการก่อสร้าง อาคารรัฐสภาใหม่ ที่ได้แอบมีการแก้ไขแบบก่อสร้างโดยพลการจนผิดเงื่อนไขการอนุมัติของ ครม.หรือไม่ เพราะหากเป็นเช่นนั้น สำนักงบฯ ต้องจัดงบประมาณไปจ่ายเป็นค่าไฟฟ้าอย่าง(มหาศาล) ตลอดอายุการใช้งานของ รัฐสภาฯใหม่ หาก ผอ.สำนักงบฯ ยังไม่เคยสั่งการให้มีการตรวจสอบประเด็นนี้กับ (ทส.) และ สำนักงบฯ เห็นชอบด้วยกับงบโป่งพอง 8,600 ล้านบาท และ เสนอเรื่องไปยัง (ครม.) เท่ากับว่าเสนอเรื่องต่อ ครม. โดยขาดข้อเท็จจริงที่เป็นสาระสำคัญ อาจขัดต่อกฎหมายและมติ (ครม.) ผอ.สำนักงบฯ อาจต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด โดยตนได้แนบหนังสือที่ นร.0403(กน)/2730 ของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 20 มีนาคม 2561 เรื่องการขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่นายกฯได้เน้นย้ำ โดยในหนังสือระบุว่า (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) ได้นำกราบเรียน(นายกรัฐมนตรี)ทราบแล้ว และมีบัญชาสั่งให้ สำนักงบประมาณ ให้พิจารณาในรายละเอียดความเหมาะสมคุ้มค่าและประหยัดอย่าให้มีปัญหาเช่นเดิมเนื่องจากปัจจุบันมีปัญหามากแล้วและเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องรับผิดชอบ สภาผู้แทนราษฎร ลงชื่อ น.ส.ปราณี ศรีประเสริฐ (รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกฯและหัวหน้าคสช.) ยังไม่อนุมัติงบไอซีที 8,600 ล้านบาทเพราะผมทำหนังสือคัดค้านถึง พล.อ.ประยุทธ์ ลงวันที่ 12 มีนาคม ก่อนจะนำเข้า ครม. ในวันที่ 13 มีนาคม เพียงวันเดียวเท่านั้น ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็รับฟัง ก็ขอขอบคุณท่านนายกฯ ที่ยังได้ยินเสียงทักท้วงของ (อดีต ส.ส.) แต่ล่าสุดกระผมทราบว่ายังมีกลุ่มผู้ได้ประโยชน์ยังมีความพยายามที่จะเสนองบโป่งพองก้อนนี้เข้า ครม. อีกครั้ง หนึ่งซึ่งผมและนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ (อดีต ส.ส.พรรคแระชาธิปัตย์ กทม.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะร่วมกันคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดและพวกกระผมพร้อมต่อสู้ในศาลยุติธรรมต่อไป” นายวัชระ เพชรทอง (อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์) ได้ล่าวทิ้งท้าย.
////////////