นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่ายังไม่ทำการเมืองแต่ทำเรื่องการบ้านให้สำเร็จก่อนการเลือกตั้ง ว่าทั้งการบ้านและการเมืองนั้นเป็นเรื่องเดียวกัน ครม.สัญจร ของ พลเอกประยุทธ์ ไม่แตกต่างอะไรกับ ครม.สัญจร ของรัฐบาลทักษิณ มีการทุ่มงบประมาณลงในพื้นที่ เห็นว่าที่กลุ่ม จ.บุรีรัมย์ จะใช้ถึง1-2 หมื่นล้านบาท แล้วจะแตกต่างกับการซื้อเสียงล่วงหน้าตรงไหนที่พิเศษกว่านั้นคือมีการจัดชาวบ้านที่อ้างว่ามีถึง 3 หมื่นคนมาต้อนรับพลเอกประยุทธ์หากไม่มีวิธีการจัดการอย่างเป็นระบบแบบมืออาชีพ ชาวบ้านจะมาพร้อมเพรียงกันได้อย่างไร ประชาชนสามัคคีกันจริงๆใครๆที่บอกว่า พลเอกประยุทธ์ ดูดนักการเมืองเจ้าพ่อเป็นมุ้งๆอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนก็ได้เพราะแท้ที่จริงนักการเมืองพันธุ์เก่าเก่งกว่าสามารถดูดเอาหัวหน้าคณะรัฐประหารและนายกรัฐมนตรี เข้าเป็นพวกได้สำเร็จทำให้อำนาจบารมีและอิทธิพลของเจ้าพ่อจังหวัดต่างๆสามารถสั่งข้าราชการในท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น ทั้งเรื่องกำลังพล โยกย้ายข้าราชการ งบประมาณโครงการต่างๆ ประชาชนในจังหวัดนั้นๆก็มองตาค้างไปตามๆกันแล้วย้อนนึกวันประกาศการยึดอำนาจของคณะคสช.พุท โธ่เอ๋ยมันกลับตาลปัตรไปเสียแล้ว
ผมเห็นใจ พลเอกประยุทธ์ ที่มาเป็น นายกรัฐมนตรี ให้เพื่อนเชิดเป๋นหุ่นกระบอกมา 4 ปีพอจะต่อท่ออำนาจเพื่อเป็นนายกฯต่อกลับต้องยอมให้นักการเมืองที่ท่านด่ามาตลอดมาร่วมเชิดท่านอีก ไม่งั้นจะสืบทอดอำนาจไม่ได้แล้วเจตจำนงค์ความมุ่งหวังในการปฏิรูปประเทศที่ตั้งเอาไว้ตอนยึดอำนาจใหม่ๆมันหล่นหายไปเสียที่ไหนท่านอย่ามาอ้างว่าต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อน ยังไม่ทำการเมือง เพราะสิ่งที่ท่านทำเป็นการเมืองยิ่งกว่านักการเมืองทำเสียอีก และเป็นการเมืองรูปแบบเก่าที่ไม่ใช่การปฏิรูปการเมืองที่ท่านเคยประกาศอีกด้วยท่านต้องพึงระวังว่า สิ่งที่ท่านกำลังทำบางประการนั้นอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในชาติในอนาคตอันใกล้หรือไม่
/////////////////
ธีรพล ปลื้มถนอม (ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ) รายงาน