นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เสนอแนวคิดเปลี่ยนชื่อฝ่ายค้านเป็นฝ่ายค้านและสนับสนุน เพื่อสนับสนุนนโยบายดีๆของรัฐบาล จะเป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมเพื่อปรองดองนั้นเป็นอาการหนึ่งของคนที่เสพอำนาจนานๆ จนคิดว่าตนเองมีอำนาจสูงสุด จะพูดจะทำอะไรก็ได้เหมือนสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคิดจะเปลี่ยนเพลงชาติไทย หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตรมช.พาณิชย์เสนอเปลี่ยนชื่อร้านโชว์ห่วย เป็นร้านโชว์สวย ในที่สุดก็ล้มเหลวเพราะฝืนธรรมชาติและความจริง พลเอกประยุทธ์ เสนอให้เรียกฝ่ายค้านและสนับสนุน มันผิดแผกแตกต่างจากระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก เพราะท่านไม่เข้าใจในระบบพรรคการเมือง ถึงขั้นปล่อยไก่ในคืนวันศุกร์บอกว่าการดูดเป็นครรลองของระบอบประชาธิปไตยมาแล้วพลเอกประยุทธ์สามารถใช้ม.44 แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ให้เปลี่ยนชื่อผู้นำฝ่ายค้านเป็นผู้นำฝ่ายค้านและสนับสนุนได้ แต่คงไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เพราะถ้าจะมีคำว่าสนับสนุนด้วยก็ต้องไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ควรมาเป็นฝ่ายค้าน ส่วนนโยบายดีๆของรัฐบาลถ้าดีจริงไม่ทุจริตคอร์รัปชั่นก็ไม่ต้องให้ฝ่ายค้านไปสนับสนุน เพราะประชาชนเห็นได้ด้วยตนเองอยู่แล้วแต่ที่น่าวิตกก็คือ รัฐบาลใช้งบประมานแผ่นดินรวมทั้งสิ้น 4 ปีเป็นเงินมหาศาลนับล้านล้านบาท ในโครงการต่างๆโดยไม่มีการตรวจสอบในสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นเหตุให้เกิดการทุจริตเป็นจำนวนมาก พลเอกประยุทธ์จะแก้ไขและป้องกันอย่างไร เพราะเป็นเงินภาษีที่ได้จากหยาดเหงื่อแรงงานและน้ำตาของประชาชนทั้งสิ้น
แทนที่พลเอกประยุทธ์มาคิดปิ้งไอเดียเปลี่ยนชื่อฝ่ายค้าน พลเอกประยุทธ์ควรไปทบทวนการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรราคาปาล์มตกต่ำ เหลือเพียงกก.ละ 2.80 บาท รัฐบาลท่านปล่อยให้นำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศจนปาล์มราคาตกหรือไม่ หรือกรณีพลเอกประยุทธ์ไปพบพี่น้องชาวสวนยางพาราที่จ.สุราษฎร์ธานี ท่านก็แนะนำให้ปลูกกล้วยหอม ชาวสวนก็ทำตามแล้ววันนี้ขายไม่ได้ราคา ต้องนำไปให้สุกรกิน ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร
ล่าสุดกรณีพี่น้องเกษตรกรเชียงใหม่ลำพูนจะเดินทางมาร่วมชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินที่กรุงเทพฯ ทหารก็กักตัวผู้นำชาวบ้านไว้ที่จ.ลำพูน ไม่ให้ชาวบ้านมาร่วมชุมนุมพลเอกประยุทธ์ควรให้สิทธิเสรีภาพแก่พี่น้องเกษตรกร ถ้าเขาไม่เดือดร้อนถึงที่สุด เขาไม่มากรุงเทพฯให้เสียเวลาหรอก แต่ที่เขามาเพราะเขาสิ้นหวังหมดหวังในชีวิต เขามาเพื่อขอพึ่งความเป็นธรรมจากท่านแล้วพลเอกประยุทธ์ก็บอกว่าต้องดำเนินตามขั้นตอน นั่นนี่นู้น ทีกรณีทีวีดิจิตอลและกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม ทำไมท่านยังใช้ม.44 แก้ไขปัญหาให้เจ้าสัวนายทุนได้ ทำไมไม่ใช้ม.44 แก้ไขปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรคนยากจนคนไม่มีที่ทำกินบ้าง รัฐบาลพลเอกประยุทธ์กล้าทำให้นายทุนถึงขั้นงดเก็บภาษีนำเข้าแป้งสาลี ประเทศชาติเสียหายไปกี่พันกี่หมื่นล้านบาท แล้วปัญหาที่ดินทำกิน ท่านมี ม.44 อยู่ในมือทำไมไม่นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับประชาชนคนยากจนบ้าง ไหนบอกว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังไหนบอกว่าตัวท่านเป็นสะพาน ถามว่าเป็นสะพานของใครกันแน่
///////////
ธีรพล ปลื้มถนอม (ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ) รายงาน