เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ที่ ศูนย์การค้าเซียร์รังสิต บริเวณ The Hub ชั้น 3 อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน พร้อมด้วยผู้บริหาระดับสูงของกระทรวงแรงงานตรวจเยี่ยมการดำเนินการรับรายงานตัวคนหางานที่ผ่านการทดสอบภาษาเกาหลี และตรวจเยี่ยมการดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นาย อิมมันกิว กงสุลใหญ่ สถานเอกอัครทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย นายคังเบียงเพียว เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ร่วมตรวจเยี่ยม โดย ดร. พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการรับรายงานตัวคนหางานที่ผ่านการทดสอบภาษาเกาหลี/ทักษะการทำงาน และจัดทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม จำนวน 6,123 คน หลังจากที่ กรมการจัดหางานได้เปิดรับสมัครแรงงานไทยเพื่อไปทำงานภาคอุตสาหกรรม ณ สาธารณรัฐเกาหลี ไปเมื่อวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2561 และมีผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 17,677 คน และในรอบแรกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ผู้แทนจาก HRD Korea ได้เดินทางมาทดสอบภาษาเกาหลี ซึ่งมีคนหางาน
เข้ารับการทดสอบภาษาเกาหลี จำนวน 15,890 คน สอบผ่าน 6,406 คน คิดเป็นร้อยละ 40.32 ของผู้เข้ารับการทดสอบ จากนั้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม – 5 เมษายน 2561 คนหางานได้เข้ารับการทดสอบทักษะ และสมรรถภาพ ในรอบที่สอง จำนวน 6,238 คน ผ่านการทดสอบ 6,123 คน คิดเป็นร้อยละ 98.16 ไม่ผ่านการทดสอบส่วนใหญ่เนื่องจากตาบอดสี จำนวน 116 คน ไม่มาทดสอบ จำนวน 167 คน โดยคนหางานจำนวน 6,123 คน นี้ เป็นคนหางานที่มีความพร้อมจะให้นายจ้างเกาหลีคัดเลือกไปทำงาน ซึ่งจะเริ่มคัดเลือกระหว่างวันที่ 30 เมษายน 2561 – 10 พฤษภาคม 2561 จำนวนประมาณ 1,700 คน กรมการจัดหางานจึงรีบดำเนินการรับรายงานตัวฯ เพื่อให้ทันต่อการคัดเลือกแรงงานดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการเฉลี่ยวันละ 1,200 คน โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาร่วมดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม (CID) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คนหางานที่จะเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ได้ตามช่วงเวลาที่นายจ้างเกาหลีต้องการคัดเลือกคนหางานไปทำงานอีกด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2561 สาธารณรัฐเกาหลี มีความต้องการแรงงานไทยจำนวนทั้งสิ้น 7,000 คน แยกเป็น ภาคอุตสาหกรรม จำนวน 4,800 คน ภาคเกษตร-ปศุสัตว์ จำนวน 1,100 คน ภาคก่อสร้าง จำนวน 1,100 คน
ซึ่งหากประเทศไทยสามารถส่งแรงงานไทยได้ตามจำนวนที่สาธารณรัฐเกาหลีต้องการ แรงงานไทยมีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 48,000 – 51,000 บาท (1,352,230 – 1,701,780 วอนต่อเดือน) จะมีการส่งเงินรายได้เข้าประเทศอย่างน้อยคนละ 30,000 บาทต่อเดือน หรือ 360,000 บาทต่อปี หากแรงงานไทยได้ทำงานจำนวน 7,000 คน จะมีรายได้เข้าประเทศไม่น้อยกว่าปีละ 2,520 ล้านบาท โดยแรงงานไทยจะได้รับการจ้างงานเป็นระยะเวลา 4 ปี 10 เดือน และต่อสัญญาจ้างได้อีกไม่เกิน 4 ปี 10 เดือน
รมว.แรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับขั้นตอนต่อไปนั้น หากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (CID) และ การตรวจสอบการเข้าเมือง (CCVI) ของคนหางานผ่านเรียบร้อย กรมการจัดหางานจะยื่นวีซ่าให้คนหางาน เพื่อเตรียมเดินทางไปทำงาน แต่ขณะนี้จำนวนคนหางานที่สอบผ่านมีเพียง 6,123 คน ซึ่งยังมีจำนวน
ไม่เพียงพอกับจำนวนการเตรียมคนหางานของไทย คือ 7,000 คน จึงจำเป็นต้องประกาศรับสมัครเพิ่มเติมอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการประกาศรับสมัครคนหางานไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน 2561 นี้อีกจำนวน 1,877 คน ซึ่งจะรับสมัครพร้อมกับภาคเกษตร/ปศุสัตว์ 1,100 คน และภาคการก่อสร้าง 1,100 คน คนหางานที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามการเปิดรับสมัครได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือเว็บไซต์กรมการจัดหางาน www.doe.go.th หรือโทร.สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน