เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ต.ค. ที่โรงเรียนบ้านสุมข้าม หมู่ 4 ตำบลนาขุม อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์
พ.อ.ประสิทธิ์ มีสอาด รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์
(รอง ผอ.กอ.รมน.จว.อต.)
พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกอุตรดิตถ์ (กกล.รส.จทบ.อต.)
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ อต.6 (ห้วยน้อยกา) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 317
อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ จำนวนกว่า 20 นาย เข้าทำการตรวจสอบพร้อมยึดอายัดไม้มะค่าโมงแปรรูปขนาดใหญ่
ถูกเคลือบผิวด้วยแลคเกอร์ ใช้พื้นโต๊ะสำหรับวางในห้องประชุมหรือนั่งกินข้าว จำนวน 2 แผ่น ไม้ประดู่แปรรูป
จำนวน 6 แผ่น ไม้มะค่าโมงที่ตัดเป็นท่อนใช้สำหรับนั่งถูกเคลือบผิวด้วยแลคเกอร์ ยาว 60 เซนติเมตร
จำนวน 30 ท่อน
พร้อมเครื่องมือใช้สำหรับผลิตเฟอร์นิเจอร์ ประกอบด้วย เครื่องขัดผิวเนื้อไม้ ปลอดน้ำหรือระดับน้ำ ค้อน
ตลับเมตร สิ่วสำหรับเจาะเนื้อไม้ สายไฟฟ้าชนิดตลับม้วน กระดาษทราย ขวดน้ำยาทินเนอร์และเลื่อยโซ่ยนต์
ได้ที่ 3 อาคารภายในโรงเรียน อาทิ อาคารเอนกประสงค์ประชาร่วมใจ อาคารห้องเรียนและอาคารบ้านพักครู
ทั้งนี้ ยังมีเฟอร์นิเจอร์ส่วนหนึ่งถูกเก็บเอาไว้ในห้องสมุด โดยมีกุญแจล็อกประตูห้องเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้
ควบคุมตัวนายอภินิษฐ์ ขันลา และ นายมงคล ประทุม ชาวบ้านตำบลบ้านโคก มาสอบสวนขยายผลถึงการตั้ง
โรงเลื่อยและนำไม้ต้องห้ามมาทำการแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ พร้อมตั้ง
ข้อกล่าวหาแก่บุคคลทั้ง 2 ตั้งโรงเลื่อยไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้
โดยมีข้าราชการครูนั่งจับกลุ่มอยู่ที่บริเวณอาคารห้องเรียน พูดคุยถึงการที่เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ตชด.และ
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า นำกำลังบุกเข้ามาภายในโรงเรียนพร้อมยึดเฟอร์นิเจอร์ไม้แปรรูปทั้งหมดเอาไว้
นายชำนาญ นาสอน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสุมข้าม กล่าวว่า โรงเรียนอยู่ในสังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 2 เปิดสอนตั้งแต่อนุบาล 1 ถึง 6 มีเด็กนักเรียนทั้งสิ้น 48 คน มีครูสอน
จำนวน 3 คน ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน เฟอร์นิเจอร์ไม้แปรรูปที่ถูกยึดทั้งหมด เป็นการนำซากไม้เก่าที่
ตายมานานแล้วหลายปีและมีอยู่ภายในโรงเรียนนำมาแปรรูปทำเป็นโต๊ะ เก้าอี้ ชุดรับแขก สำหรับไว้ที่ห้องเรียน
โรงอาหารและห้องพักครู ซึ่งทางคณะกรรมการสถานศึกษาอยากเห็นโรงเรียนพัฒนาและมีความสวยงาม จึงนำ
เอาซากไม้ที่ตายแล้วอยู่โดยรอบโรงเรียนนำมาทำให้เกิดประโยชน์มีคุณค่า
โดยว่าจ้างชาวบ้านให้นำไม้ทั้งหมดมาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องผิดกฏหมาย เพราะเป็น
ไม้ตายซากที่วางกองอยู่ไม่ได้ตัดสด ซึ่งชาวบ้านก็ทำกันอยู่แล้ว ทางโรงเรียนน่าจะทำบ้าง เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น
ก็ต้องทำเรื่องรายงานแจ้งให้ทางผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาอุตรดิตถ์ได้รับทราบต่อไป
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReE5ESTVNelkyTUE9PQ%3D%3D&subcatid