วันนี้ 22 เมย.61ชาวบ้านวังตะภาพ หนองโคนหนองย่าปล้อง หนองสองตอน สามขา
มาบเหียง ทนรับควันจากบ่อขยะของอบต.ศรีมหาโพธิ ที่มีการเผาขยะควันกระจายสู่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่รอบๆ 200-1 กม.ไม่ไหวบ่อขยะแบบไม่ฝังกลบ มีคนเก็บขยะจุดไฟเผาเพื่อหาของเก่ามาแรมปี ก่อนหน้านี้ชาวบ้านหนองหอย ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ เจ้าของพื้นที่เข้ารับฟังการประชาคมการทำบ่อขยะไม่มีใครเอาบ่อขยะ และทางอบต.ทำผิดวัตถุประสงค์ให้รถขยะนอกเอาขยะมาทิ้งร่วมด้วยตกวันละ 4-5 คัน ทั้งขยะที่มาจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมด้วย จากที่ผ่านมาประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่รอบๆบ่อขยะและใกล้บ่อขยะต้องทนรับควันไฟเป็นเวลานานข้ามวันข้ามคืนหากมีการจุดเผาขยะควันจากบ่อขยะจะกระจายลอยไปตามลมส่งผลให้ประชาชนสูดดมควันไฟแรมปี ควันไหจากบ่อขยะจะมีการจุดเผาทุกๆ 3-4 วัน
และทุกครั้งที่มีการจุดเผาขยะที่บ่อขยะจะมีควันไฟนาน 2-3 วัน ควันจะลอยไปตามลมส่งผลให้ประชาชนสูดดมควันไฟเป็นเวลานานๆ บางคนมีโรคประจำตัวหลายรายแล้วเนื่องจากสูดดมควันไฟนานๆนางเกษร แปนวงศ์ อายุ 62 ปี ราษฎร ม.10 ต.
ศรีมหาโพธิ ได้กล่าวว่าบ้านตรอยู่ห่างจากบ่อขยะราว 300 เมตร ต้องทนสูดดมควันไฟจาก
บ่อขยะนี้เป็นเวลานานๆบอกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดับไฟให้ก็ไม่ได้มาดับให้ต้องทน
สูดดมควันไฟข้ามวันข้ามคืนต่อไป
ครั้งนี้ควันไฟจากบ่อขยะไหม้นานตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา นานมากเกินกว่าที่จะไม่ไหวจึงแจ้งทางผู้นำท้องถิ่นให้แจ้งทางอบต.ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลช่วยดับไฟด้วยแต่ก็ยังไม่มีใครลงมาช่วยดับไฟให้ จึงต้องร้องผ่านสื่อมวลชนลงตรวจสอบ
ขณะเดียวกันรถดับเพลิงของอบต.ศรีมหาโพธิมาฉีดน้ำดับไฟให้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
หรือว่ากลัวสื่อที่มาทำข่าวกันแน่ นายชัยวัฒน์ ศรีวัจัย อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/1ม.10ต.ศรีมกาโพธิ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บ้านตนกับพี่น้องอยู่ห่างจากบ่อขยะแค่ 200 เมตร ต้องทนสูดดมควันจากบ่อขยะทุกครั้งที่มีการจุดเผาขยะซึ่งแต่ละครั้งจะกิน
เวลานานกว่า 3 วัน 3 คืนในแต่ละครั้งในการจุดหรือมากกว่านี้ถ้ามีคนเก็บขยะจุดเผาเพื่อหาของเก่าในบ่อขยะ บ่อขยะมีพื้นที่กว่า 29 ไร่ไม่มีการฝังกลบและการที่มีการประชาคมก็ไม่ได้ผ่านการประชาคมแต่ทำไมถึงมีการสร้างบ่อขยะได้ ซึ่งวานนี้ได้ประสานไปยังทางอำเภอทางอำเภอบอกว่ารออีกวันหนึ่งจะส่งรถดับเพลิงไปดับไฟให้ ชาวบ้านทนไม่ได้
จึงรวมตัวกันร้องผ่านสื่อมวลชนพอทราบว่ามีนักข่าวหลายคนลงพื้นที่จึงส่งรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟให้หากไม่มีนักข่าวลงพื้นที่กับชาวบ้านคงต้องปล่อยให้ชาวบ้านตาดำๆสูดควันไฟจนกว่าไฟจะดับเอง อยากให้ผู้นำหมู่บ้านหันมองปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบ
ดูบ้างว่าเขาอยูากันอย่างไรทนทุกข์แค่ไหน…
ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี/รายงาน…