วันนี้ 21 เมย.61 เวลา18.30 น.นส.วิชุดา อินทร์เคน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/1ม.9
ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ร้องผ่านสื่อว่าเมื่อวันที่ 20 เมย.เวลา16.00 น. นส.กลิ่นผกาวาณิชย์ธนกุล เพื่อนสาวให้โอนเงินเข้าบัญชีโดยคุยผ่านเฟสบุ๊ค ซึ่งทั้งสองก็คุยทางเฟสบุ๊คกันทุกวันทางฝ่าย นส.วิชุดา ขายของชำที่บ้านแฟนในหมู่บ้านบ้านกุง ต.
วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรีซึ่งในห้องสนทนาบอกว่ายืมเงินก่อน 4,000 หรือ4,500 เย็นเลิกงานจะคืนให้ นส.วิชุดาตอบกลับว่าไม่ถึงหรอกอีกฝ่ายบอกว่ามีถึง4,300 มั้ยยืมก่อน
นส.วิชุดาตอบกลับไปว่าพอมีนะ งั้นเธอรีบโอนให้ด้วยนะตอนเย็นเลิกงานจะคืนให้ จาก นั้นนส.วิชุดา ก็จัดการโอนเงินเข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์กระทั่ง นส.กลิ่นผกา เลิกงานและบังเอิญมาที่ร้านเพื่อซื้อของ นส.วิชุดาได้มองหน้าเพื่อนสาวด้วยสายตา งงและแปลกๆแต่
ก็ไม่ได้พูดอะไรไม่ตำหนิเพื่อนว่าทำไมไม่คืนเงินที่ให้โอนเงินให้เมื่อช่วง
บ่ายที่ผ่านมา ด้าน นส.กลิ่นผกาก็รู้สึกงงกับสีหน้าแววตาของเพื่อนว่าทำไมมองเธอเหมือนกับว่าตนเองผิดอะไรทำอะไรให้ นส.วิชุดายังคิดว่าเพื่อนสาวคงลืมคืนเงินให้เดี๋ยวกลับบ้านจะโทร คุยด้วยเรื่องให้โอนเงินให้ ขณะปิดร้านมาเปิดดูเฟสบุ๊คของเพื่อนปรากฏว่าชื่อหายไปแล้วโดยมีชื่ออื่นขึ้นมาแทน ตอนแรกรู้สึกตัวชาหน้าชาที่เห็นแบบนี้และรู้ทันทีว่า
ที่แท้เป็นการหลอกให้โอนเงินให้คนร้ายแอบปลอมแปลงหน้าเฟสฯหน้าเพื่อนทำให้ตนสูญเงินไป 4,300 บาท
ขณะเดียวกันพี่ชายได้โทรมาหาบอกว่าได้โอนเงินให้เพื่อนไป 49,000บาท ความจึงแตกว่าถูกพวกแก๊ง18 มงกุฎหลอกให้โอนเงินในครั้งนี้หลังจากตั้งสติได้จึงโทร เล่าให้
นส. กลินผกา ฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น นส.กลิ่นผกา ทันทีที่ได้รับรู้เรื่องจากเพื่อนรีบมาหาที่บ้านเพื่อนและช่วยกันค้นหาหน้าเฟสบุ๊คชื่อนั้นปรากฎว่าหน้าเฟสบุ๊คถูกลบทิ้งไปหมดแล้วโดยมีชื่อคนอื่นขึ้นมาแทนซึ่งหน้าเฟสใหม่บอกว่าถูกหลอกให้โอนเงินแบบนี้เหมือน
กัน ปรายทางที่โอนเงินให้อยู่ที่ จ.ชุมพร เป็นธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมด 3 บัญชี ซึ่งเป็นชื่อของนายอรัญ วาสอิน นายธีรพัฒน์ พันธ์ุดี
ทั้งสองพร้อมเพื่อนสาวจึงได้ปรึกษากันไปแจ้งความที่สภ.วังตะเคียนปรากฏว่าไม่พบร้อยเวรพวกตนเอะอะโวยวายจนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมามาลงบันทึกประจำวันให้ก่อนและจะแจ้งให้ร้อยเวรทราบ นส.กลิ่นผกา กล่าวว่าตนไม่รู้เรื่องเลยไม่คิดว่าจะมีคนแอบอ้างชื่อและหน้าเฟสบุ๊คของเธอมาหากินแบบนี้ ซึ่งบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหน้าตาเหมือนตนมากและขอยืนยันว่าไม่ได้รู้เรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้น และนส.วิชุดาก็เชื่อว่าเพื่อนไม่ได้รู้เรื่องด้วยเชื่อว่าพวกมิจฉาชีพทำการหลอกทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายขอฝากเตือนผู้ที่เล่นเฟสบุ๊คอย่าได้หลงเชื่อถ้ามีคนให้โอนเงินให้ ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่สุดขอให้ทางตำรวจช่วยสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ เชื่อว่าคนพวกนี้ทำกันเป็นขบวนการและทำมานานแล้ว
ต่อมา ร.ต.อ.มณี แสงชยาภา รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังตะเคียน ได้นัดให้นส.วิชุดาพร้อมพวกที่เสียหายไปแจ้งความเพื่อที่จะได้สอบสวนหาเบาแสของผู้แอบอ้างและจะดำเนินดีตามกฎหมายต่อไป…
ภาพ/ข่าว:ทองสุขสิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรี/รายงาน…