เอเอฟพี – ไต้หวันซ้อมรับมือหากแผ่นดินใหญ่โจมตีฐานทัพอากาศจนพังพินาศ ฝึกเครื่องบินรบลง
จอดรันเวย์ฉุกเฉินกลางทางหลวง พร้อมเผยโฉมเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศที่สั่งจากมะกันให้
เห็นเป็นครั้งแรก
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน (17 ก.ย.) ว่า เครื่องบินขับไล่และเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศของกองทัพไต้หวัน
ได้ซักซ้อมลงจอด เติมเชื้อเพลิง และขึ้นบินอีกครั้ง บนถนนทางหลวงสายหนึ่งของเกาะในวานนี้ (16 ก.ย.)
โดยเป็นการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีฐานทัพอากาศของกองทัพถูกจีนแผ่นดินใหญ่โจมตีและยึดครองไปได้
“เราซักซ้อมโดยอิงสถานการณ์สมมติว่า ฐานทัพอากาศถูกขีปนาวุธและจรวดนำวิถีติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
โจมตีจนเสียหายย่อยยับ” พลตรีหง กวงหมิง กล่าวกับนักข่าว
เครื่องบินขับไล่ จำนวน 3 ลำ ได้แก่ เอฟ-16 (F-16), มิราจ 2000-5 (Mirage 2000-5) และเอฟ-ซีเค-1เอ
(F-CK-1A หรือ Indigenous Defence Fighter) ซึ่งไต้หวันผลิตขึ้นเอง ได้ซ้อมลงจอด เติมเชื้อเพลิง
บรรจุจรวดมิสไซล์ และอาวุธยุทธภัณฑ์อื่นๆ ก่อนขึ้นบินจากรันเวย์ฉุกเฉินบนถนนนครเจียอื้ทางตะวันตก
เฉียงใต้ของเกาะ
นอกจากนั้น ในวานนี้ไต้หวันยังได้เผยโฉมเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ รุ่น อี-2เค (E-2K) ซึ่งสั่งตรงมา
จากประเทศสหรัฐอเมริกา ปรากฏแก่สายตาสาธารณะชนเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ขณะที่ทหารราว 1,200 นาย ก็เคลื่อนพลมาร่วมการซ้อมรบอันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สงครามที่มีชื่อเรียกว่า
“Han Kuang 30” หรือเหลียนซิง 30 ในภาษาจีนกลาง ที่ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินพละกำลังและความ
สามารถของทัพไต้หวัน ในการป้องกันตนเองจากการรุกรานของจีน
ทั้งนี้ การซักซ้อมลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งเป็นดังเครื่องเตือนความจำ
“การเป็นศัตรูกับจีน” ของไต้หวัน ที่ยังคงหลงเหลืออ้อยอิ่งให้เห็นอยู่ แม้ความสัมพันธ์ไทเป-ปักกิ่ง
จะมีพัฒนาการดีขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ก็ตาม
โดยหลังจากนายหม่า อิงจิ่ว ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีไต้หวันจากพรรคก๊กมินตั๋ง กุมชัยชนะ
คราแรกในปี 2551 เขาได้ชูนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวและธุรกิจการค้ากับแผ่นดินใหญ่อย่างแข็งขัน
ตลอดจนพยายามฟื้นฟูและกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำในปักกิ่ง หยั่งผลให้บรรยากาศระหว่าง
ไต้หวัน-จีนใหญ่ เป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น
ขอขอบคุณเนื้อหาและรูปภาพ
ผู้จัดการ