ไฟใหม้ลูกพ่อลูกค้าของเก่าหมด ลูกนั่งร้องให้ไร้บ้านอยู่ เมื่อเวลา 13.30 น วันนี้ที่ 9 เมษายน 2561 พ.ต .ท . พรมมี โสระศรี รอง ผกก สอบสวน และ ร.ต .อ วิชิต ลาชัย ร้อยเวรสภ น้ำโสม จ อุดร ได้รับแจ้งจากวิทยุ 02 สภ น้ำโสม ว่ามีเหตุไฟให้มบ้านทีบริเวณ หมู่ที 3 บ้านสันติสุข ต นางัว อ น้ำโสม เพลิงกำลังลุกใหม้อย่างรุ่นแรงจึงประสานหน่วยรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลนางัวและหน่วยกู้ภัยทางหลวงน้ำโสม รุดไปที่่เกิดเหตุดังกล่าวไฟกำลังลุกใหม้อย่างหนัก รถดับเพลิงจำนวน 2 คัน ฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางหลวงนำเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ช่วยดับไฟ แต่ไม่สามารถสกัดเพลิงใด้ลุกลามไปยังไร่อ้อยที่อยู่ใกล้ๆจำนวน 55 ไร่ ไฟลุกใหม้อย่างหนักรถดับเพลิงสกัดไม่เป็นผลเพียงแต่ชลอการลุกลามให้ช้าลงเพลิงลุกใหม้อยู่ประมาณ 3 ชั่วโมงก็สงบลง จากการสอบสวนเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ นายสมชาย ไชยศรี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 หมู่ที่ 3 บ้านสันติสุข ตำบลนางัว อ น้ำโสม จ อุดร ให้การว่าตนเป็นเจ้าของบ้านอยู่กับลูกชายอายุ 6 ปี ขณะนั่งดูทีวีกับลูกชายได้เห็นไฟลุกอยู่ไร่อ้อยหน้าบ้านซึ่งได้ตัดเรียบร้อยเหลือแต่ใบแห้งๆขณะไฟลุกอยู่ตนร้องให้คนช่วยคนที่อยู่ใกล้เคียงกันจึงช่วยกันดับไฟจนหมดตนจึงเดินไปดูต้นเพลิงพบว่าเกิดจากสายไฟฟ้าที่ตนต่อมาจากบ้านพ่อตา เกิดช๊อต เกิดเปลวไฟ และให้มลุกลามแต่ดับได้ ตนเห็นว่าไฟดับสนิทแล้วจึงออกไปซื้อยาแก้ปวดกลับมาไฟกำลังลุกใหม้บ้าน รถกะบะ มิตร สตาร์ด้า และทีวีตู้เย็น อย่างหนักใช้รถดับเพลิงสกัดเพิลงแต่ด้วยความแรงของเพลิง ลุกลามไฟยังไร่อ้อยลุกลามอย่างหนักไร่อ้อยจำนวน 55 ไร่จนหมด มูลค่าเสียหายครั้งนี้ บ้านปูนชั้นเดียวข้าวของเครื่องใช้ รถยนต์และอื่นๆประมาณ 3 แสนกว่าเป็นของตนแต่ไร่อ้อยเป็นของคนอื่น ซึ่งเป็นอ้อยปีแรก 55ไร่ใช้เป็นอ้อยขยายพันธุสำหรับปลูกปีต่อไป ราคาอ้อยขยายพันธุ ซื้อขายกันไร่ละ หมื่นกว่าถึง 2 หมื่น รวม 55 ไร่ประมาณ 7 แสนถึง ล้านกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายวรเชษฐ ธรรมเขต ผู้สื่อข่าว จ อุดร รายงาน