ผู้นำจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ร่วมเจรจาทางทหาร พร้อมเรียกร้องให้หยุดเคลื่อนไหวต้าน คิม จอง อึน
เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ เจรจาทางทหาร ครั้งแรกในรอบ 4 ปี
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์ รายงานว่า นายทหารระดับสูงของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้
ได้พบปะกันที่ชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อหารือกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (15 ต.ค.) หลังจากที่ทั้งสองประเทศ
เปิดฉากยิงใส่กันเมื่อต้นเดือน แต่ทว่า การประชุมนั้นกลับประสบความล้มเหลว ไม่มีข้อสรุปใด ๆ
เพราะความเห็นที่ต่างกันและไม่อาจตกลงกันได้
โดยพลเอกคิมยองชอล หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของเกาหลีเหนือ ได้พบปะกับพลโทริวจีซุง หัวหน้าหน่วยยุทธวิธี
จากกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ที่หมู่บ้านปันมุนจอม หมู่บ้านชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งในระหว่าง
ที่มีการพูดคุยกัน 5 ชั่วโมง ทางเกาหลีเหนือได้ย้ำถึงความไม่พอใจเกี่ยวกับเส้นแบ่งทะเลเหลือง ที่เขียนโดย
สหประชาชาติหลังจากการสิ้นสุดสงครามเกาหลีเมื่อปี ค.ศ. 1953 แต่ทางเกาหลีใต้กลับแย้งว่า เส้นแบ่งนั้นถือ
เป็นเส้นแบ่งทางทะเลที่ถูกต้อง นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังได้อ้างถึงเขตแดนทางทะเลที่อยู่ทางใต้หลายไมล์
ห่างจากแนวจำกัดแดนเหนือ และต้องการให้เกาหลีใต้ สกัดกั้นเรือของตัวเองให้อยู่ห่างจากเส้นแบ่งเขตทางทะเลใหม่
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เคยมีเหตุพิพาททางทะเล เกี่ยวกับแนวจำกัดแดนเหนือ ในปี ค.ศ. 1999, 2002
และ 2009 และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายต่างก็เปิดฉากยิงอาวุธใส่กันอีกครั้ง
ด้านเกาหลีเหนือ ยังได้เรียกร้องให้เกาหลีใต้ ยับยั้งการเคลื่อนไหวทางการเมืองใด ๆ ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ
ทั้งจากคนเกาหลีใต้เองและคนเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์ และให้สื่อของเกาหลีใต้ หยุดโจมตีคิม จอง อึน ผู้นำของ
เกาหลีเหนือ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ทหารทั้งสองฝ่ายต่างยิงปืนใส่กัน หลังจากที่ทางเกาหลีเหนือ
พยายามที่จะปล่อยบอลลูนที่มีข้อความต่อต้าน คิม จอง อึน ที่นักเคลื่อนไหวของเกาหลีใต้ ได้ปล่อยบอลลูนข้าม
เข้าไปในเขตของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
“ทางฝ่ายของเราค่อนข้างชัดเจนว่า เราจะปกป้องแนวจำกัดแดนเหนือ และเนื่องจากเรามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
เราจึงไม่สามารถควบคุมกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ปล่อยบอลลูน หรือออกมาตรการควบคุมสื่อได้ การประชุมครั้งนี้
จบลงโดยที่ไม่ได้มีการนัดหมายในการประชุมครั้งต่อไป หรือมีการบรรลุข้อตกลงใด ๆ”
นายคิม โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
