เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่ สน.ท่าข้าม พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ญาณพงษ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 และ พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ รอง ผกก.สส.สน.ท่าข้าม ร่วมกันจับกุมตัว 1.นายพิชิต หรือแบงก์ วงค์สม อายุ 22 ปี 2.นายบุญมา หรืออาร์ม ฉัตรบุบผา อายุ 21 ปี 3.นายสิทธิไชย หรือฟร้อนท์ สวนปรารมภ์ อายุ 26 ปี 4.นายศราวุธ หรือโน้ต ปัดตาตะพัง อายุ 34 ปี 5.นายโชคชัย หรือโชค เมืองอินทร์ อายุ 28 ปี 6.นายภาณุพงษ์ หรือนัด หาญบัญญัติ อายุ 22 ปี และ 7.นายสุริยัน หรือแซม แย้มย้าม อายุ 26 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย โดยจับกุมได้ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม พร้อมของกลาง รถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ รวม 4 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ อีก 7 ชุด
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 01.20 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุชายถูกคนร้ายรุมตีเสียชีวิต บริเวณลานจอดรถตลาดมารวย และ ตลาดคอลั่ม ถนนท่าข้าม ซอย 9/1 เมื่อรุดไปตรวจสอบ พบ ศพ นายจักรกริช พรหมศิริ อายุ 38 ปี ชาว จ.อุทัยธานี มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งคาดเป็นขวดเบียร์เข้าที่เหนือคิ้วขวา เป็นแผลฉกรรจ์ ยาว 4 เซนติเมตร โดยผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ข้างๆ ชามก๋วยเตี๋ยว และขวดเบียร์ที่ผู้ตายซื้อมานั่งดื่มที่ลานจอดรถแตกกระจายเกลื่อนพื้น จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ตายที่ได้จากโทรศัพท์มือถือในตัว ทราบว่า ก่อนเสียชีวิตผู้ตายเพิ่งเดินทางจากอุทัยธานี บ้านเกิดมาตามหาภรรยาในละแวกดังกล่าว ได้เพียง 2 วัน เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายต้องเป็นคนรู้จักหรืออาจเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นที่เขม่นกันซึ่งหน้าทำให้ลงมือก่อเหตุแล้วหลบหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสั่งการให้ พ.ต.ท.โชตินันท์ โชติเนตร และ พ.ต.ต.วรัษฐา วุฑฒิรักษ์ สว.สส.สน.ท่าข้าม ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดร่วมกับ กก.สส.บก.น.9 พบภาพผู้ต้องหา จำนวน 7 ราย ขับขี่และซ้อนท้าย รถ จยย.ของกลาง รวม 4 คัน ออกจากจุดเกิดเหตุ โดยมี นายพิชิต หรือแบงก์ วงค์สม อายุ 22 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานเขยผู้ตาย และลูกชายเจ้าของร้านคาราโอเกะในตลาดคอลั่มเป็นหัวโจก พาเพื่อนๆ อีก 6 คน มาก่อเหตุและพากันหลบหนี จึงขออนุมัติหมายจับติดตามตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ทั้ง 7 ราย ในละแวกที่พักย่านการเคหะท่าข้าม ก่อนที่ทั้งหมดจะแตกกระเจิงแยกย้ายไปกบดานในพื้นที่อื่น
จากการสอบสวน นายพิชิต หัวโจกให้การว่า นายจักรกริช ผู้ตาย มีศักดิ์เป็นน้าเขยตนเพราะเป็นสามีของน้องสาวแม่ ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 1-2 เดือนที่ผ่านมา นายจักรกริช เคยก่อเหตุเผาบ้านพักของยายตนที่ จ.นครสวรรค์ ขณะนี้มีคดีความกันอยู่ยังไม่จบเรื่อง กระทั่งเมื่อ 2 วันที่แล้ว น้าสาวตนซึ่งเป็นภรรยา นายจักรกริช ได้หนีจาก จ.อุทัยธานี มาพักอยู่กับแม่ตนที่ร้านคาราโอเกะในตลาดคอลั่ม เพราะทนพฤติกรรมหึงหวงของ นายจักรกริช ไม่ไหว แต่แล้ว นายจักรกริช ก็ยังตามมาราวี ซึ่งที่สุดก่อนเกิดเหตุตนทราบว่า นายพิชิต บุกมาถึงร้านคาราโอเกะของแม่ตน และไปซื้อเบียร์มานั่งดื่มที่ลานจอดรถในตลาด ตนจึงโทรศัพท์ตามพรรคพวกอีก 6 คน มารุมกระทืบผู้ตาย ส่วนขวดเบียร์ที่แตกนั้นไม่ทราบว่าใครพลั้งมือนำไปตีที่คิ้วผู้ตาย เพราะตอนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายมาก
ขณะที่ พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ เปิดเผยว่า ในชั้นการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ยังเกี่ยงกันอยู่ว่าใครเป็นผู้นำขวดเบียร์ตีใส่ผู้ตาย แต่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบริเวณป้อม รปภ.หน้าลานจอดรถของตลาด บันทึกภาพผู้ร่วมก่อเหตุ ยานพาหนะ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ไว้ได้ทั้งหมด โดยหลังจากนี้จะแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย กับผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินการต่อไป.
/////////////////////////////////////////////
ขอบคุณข้อมูลข่าวสาร ภาพ/ข่าว
> cr.ป๋าหรั่ง/ฝั่งธน (หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย)
> ธีรพล ปลื้มถนอม (ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ) รายงาน