คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ,เครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน, จัดเวทีเสวนาประชาชนตรวจสอบคอร์รัปชั่น, หัวข้อ “ตรวจสอบปัญหาการทุจริตประพฤติชอบ กรณีไอที-รัฐสภา แห่งใหม่” โดยมี อดีต (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์,เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย,หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (บุตรชาย) “ของผู้บริหาร บริษัท ซิโนไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)”บริษัทผู้รับจ้างการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ,ร่วมการเสวนา ที่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย..
วันที่ 31 มีนาคม 2561 เวลา 10:00 น. ที่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยวันนี้มี นายวัชระ เพชรทอง “อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์” เริ่มเปิดประเด็นในวงเสวนา เรื่องการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวว่า บ.ซิโนไทย ฯ ใช้อิทธิพลขยายเวลาก่อสร้างรัฐสภาใหม่ และเรื่องการขยายเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่ามีการขยายเวลาการก่อสร้างออกไป 1,482 วัน จากเดิมในสัญญากำหนดไว้เพียง 900 วัน รวมต้องใช้เวลาการก่อสร้างถึง 2,382 วัน ซึ่งถือว่า บริษัทผู้รับเหมาเป็นบริษัทที่ได้รับความเมตตาจากรัฐมากที่สุดที่ให้ขยายเวลาการก่อสร้างไปถึง 3 ปี จึงตั้งข้อสังเกตว่า การขยายเวลาครั้งแรกที่นายจเร พันธุ์เปรื่อง อนุมัติการขยายเวลาไม่ครบตามจำนวนบริษัท ซิโนไทยฯขอมา ทำให้นายจเรถูกคำสั่ง ม.44 ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่า การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนหรือไม่ พร้อมตั้งคำถามว่า ในเมื่อบริษัทรับเหมาก่อสร้างทราบอยู่แล้วว่า ทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะส่งมอบพื้นที่แต่ละส่วนไม่พร้อมกัน เหตุใดจึงไม่มีการวางแผนเพื่อรองรับเหตุการณ์เหล่านี้ และตั้งคำถามอีกว่า ทางบริษัทได้รับมอบพื้นที่ครบทั้งหมดในวันใด และแต่เดิม ห้องโถงชั้นล่างของรัฐสภาแห่งใหม่ที่ออกแบบให้เป็นอาคารประหยัดพลังงานที่รับลมจากธรรมชาติ แต่มีการปรับแก้ไขแบบให้มีเครื่องปรับอากาศ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า จะไม่ยอมเข้าไปนั่งในสภาที่มีการทุจริตอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ตนเตรียมยื่นหนังสือเรียกร้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ด้วย
ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวว่า พ่อของตนได้ก่อตั้งบริษัท ซิโนไทยฯมานาน 50 กว่าปีแล้ว และการที่ต้องมาชี้แจงในวันนี้ เพราะมีการพาดพิงว่า บริษัทซิโนไทยฯ ใช้อิทธิพลในการรับว่าจ้างและการต่อสัญญามาด้วย โดยยืนยันว่า ทุกครั้งที่ขยายสัญญา เพราะมีเหตุจำเป็นที่เกิดจากความผิดพลาดในการส่งมอบพื้นที่ไม่ใช่ความผิดของบริษัทซิโนไทยฯ และไม่เคยใช้อิทธิพลในการต่อสัญญา พร้อมยืนยันว่า การร่วมเสวนาในวันนี้ (31 มี.ค. 61) ไม่ได้มาในเรื่องของการเมืองใดๆทั้งสิ้น สำหรับการขยายเวลาการก่อสร้างตามที่นายวัชระตั้งข้อสังเกตนั้น นายอนุทิน ชี้แจงว่า สิ่งที่นายวัชระกล่าวหา ไม่มีความจริงทั้งสิ้น เป็นเพียงการคาดเดา อีกทั้งในช่วงการอนุมัติงบประมาณการก่อสร้าง เป็นช่วงที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่นายชัย ชิดชอบ แต่อย่างใด สำหรับการกำหนดเวลาการก่อสร้าง 900 ตามสัญญานั้น ทางบริษัทซิโนไทยฯไม่ได้เป็นผู้กำหนด และหากการส่งมอบพื้นที่เป็นไปตามกำหนด ทางบริษัทก็ต้องก่อสร้างให้เสร็จภายในเวลา 900 วันตามสัญญา ทั้งนี้ ผู้รับจ้างไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ ไม่ใช่เจ้าของดิน ผู้รับจ้างเป็นผู้รอรับคำสั่ง บริษัทซิโนไทยฯไม่ได้รู้ล่วงหน้าได้ว่าจะส่งมอบพื้นที่ไม่ทันตามกำหนด รู้เพียงว่า หากส่งมอบพื้นที่เสร็จ บริษัทจะใช้เวลาก่อสร้าง 900 วัน แต่เมื่อการส่งมอบพื้นที่แล้วเสร็จเมื่อปี 2559 การก่อสร้างก็จะเสร็จในปี 2562 ตามสัญญา 900 วัน ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่า ทางบริษัททราบอยู่แล้วว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นมากมายในการก่อสร้าง แต่บริษัทก็ต้องการรับจ้างงานเพื่อให้เป็นเกียรติประวัติแก่บริษัทซิโนไทยฯ ดังนั้น นายวัชระ สามารถเข้าไปนั่งในสภาได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมกล่าวถึงเรื่องของบประมาณ ที่มีขอเพิ่มเติม เพื่อติดตั้งระบบไอทีของรัฐสภาแห่งใหม่ว่า โดยทางบริษัทซิโนไทยฯ กล่าวว่าไม่เกี่ยวข้อง เพราะยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการของบประมาณ ยังไม่ได้ดำเนินการประกวดราคาเพื่อจ้างบริษัทเอกชนมาติดตั้งว่า งานระบบไอที ไม่ได้อยู่ในขอบเขตหรือเนื้องานที่บริษัทซิโนไทยฯต้องรับผิดชอบ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆในการออกแบบ จัดซื้อจัดหาระบบไอที เพราะงานระบบไอทียังไม่มีงบประมาณ ยังไม่มีการกำหนดคุณสมบัติ ยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากสำนักงบประมาณ และยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อีกทั้งเรื่องระบบงานไอทีก็ไม่เกี่ยวข้องกับการขอขยายเวลาด้วย ดังนั้น ที่กล่าวหาว่า การขยายเวลา ทำให้รัฐเกิดความเสียหายนั้น ขอชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆ จึงขออย่ากล่าวหาว่า บริษัททำให้รัฐเสียหาย
ต่อมา นายวิลาศ กล่าวว่า ตนไม่เคยกล่าวอ้างบริษัทเอกชน เพราะเข้าใจการทำงานของบริษัทเอกชน แต่ส่วนตัวไม่เคยเห็นโครงการใดที่เละเท่าโครงการการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยเฉพาะการขยายเวลาการก่อสร้างที่สังคมยังไม่ทราบว่า เป็นเพราะการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตเรื่อง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจ้างบริษัทเมอร์ลิน โซลูชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดเพื่อออกแบบระบบไอทีด้วยวิธีพิเศษ ไม่ได้จัดจ้างด้วยวิธีการประกวดราคา โดยอ้างว่า มีเวลาจำกัด ทั้งที่ส่วนตัวเห็นว่า ก่อนหน้านี้มีเวลามานานแล้ว เหตุใดจึงมาจ้างบริษัทดังกล่าวด้วยวิธีพิเศษในเวลานี้ และจากการชี้แจงของทีมสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถึงงบประมาณการติดตั้งระบบไอทีที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อวันพฤหัสบดี (29 มี.ค.61)ที่ผ่านมา ก็ยังไม่ชัดเจนเรื่องเหตุผล ส่วนที่ตนเห็นว่า โครงการดังกล่าวมีการทุจริตเกิดขึ้น เนื่องจากข้าราชการที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการ มักจะมีความก้าวหน้ามากเป็นพิเศษ
เช่นเดียวกับ นายศรีสุวรรณ ที่ กล่าวต่อว่า ตนติดใจในเรื่องงบประมาณไอที ที่มากถึง 8,000 กว่าล้านบาท เพราะงบประมาณบางส่วนไม่มีที่มาที่ไป ขณะที่งานโสตทัศนูปกรณ์ก็ใช้งบประมาณที่สูงเกินความจำเป็น
จากนั้น นายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ชี้แจงเรื่องการขยายระยะเวลาการก่อสร้าง 3 ครั้งว่า ที่ผ่านมาได้มีการชี้แจงออกมาเป็นระยะ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยอยู่แล้ว ทั้งนี้ การทำงานจะต้องมีการแก้ปัญหาและอุปสรรคมาตลอด ครั้งแรกที่มีการขอขยายเวลา เนื่องจากพบปัญหาการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าและปัญหาการทิ้งดิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่จะส่งมอบพื้นที่และจัดหาสถานที่ทิ้งดินล่าช้า ส่วนการขยายเวลาครั้งที่สอง ก็มีปัญหาต่อเนื่องจากการขุดดินเพื่อสร้างห้องใต้ดิน เพราะหากนำดินออกไปจากพื้นที่ไม่ได้ ก็ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างชั้นใต้ดินได้ ซึ่งใช้เวลานานมาก และผู้บริหารของสภาฯคนเก่าไม่กล้าตัดสินใจในการขายดินส่วนที่ขุดออกมา ขณะเดียวกัน เวลานั้นก็ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ยังส่งมอบไม่เสร็จ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่ต้องใช้ในการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงเหล็กหลังคาห้องประชุม ส.ส.และห้องประชุม ส.ว.ด้วยการสไลด์ชิ้นส่วนผ่านพื้นที่ดังกล่าวเข้ามาในส่วนการก่อสร้างอาคาร พร้อมย้ำว่า การขยายเวลาทั้ง 3 ครั้งนั้น มีเหตุผลที่ชัดเจน สำหรับงบประมาณในส่วนของระบบไอทีนั้น ตั้งแต่ปี 2552 ได้ตั้งกรอบวงเงินงบประมาณในส่วนนี้ไว้ 3,200 ล้านบาท และเมื่อประกวดการออกแบบจนได้บริษัทออกแบบมาทำงาน กลับพบว่า การก่อสร้างทั้งหมดจะต้องใช้พื้นที่และงบประมาณเพิ่มขึ้น จึงได้แยกงานไอที สาธารณูปโภคและงานประกอบอาคารออกจากสัญญา เนื่องจากงบประมาณที่วางไว้ไม่พอ อีกทั้ง งบประมาณดังกล่าวถูกนำไปใช้ในส่วนอื่น ต่อมาพบว่า การออกแบบระบบไอทีของบริษัทเดิมยังไม่ทันสมัยเพียงพอ จึงต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อมาศึกษาและใช้เวลาค่อนข้างนานในการศึกษา จากนั้นได้จัดจ้างบริษัทใหม่ที่ไม่ขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี จนได้บริษัท เมอร์ลินฯเข้ามาดำเนินการออกแบบระบบไอที ซึ่งบริษัท เมอร์ลินฯ ได้ออกแบบระบบไอทีที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมากขึ้นกว่าวงเงินเดิม จึงเป็นที่มาของการขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมจากคณะรัฐมนตรี
เบื้องต้นในการจัดเวทีการเสวนาในวันนี้ได้มีหน่วยงานและพรรคการเมืองต่างๆเข้าร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก อาทิ ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย,ผู้อำนวยการการก่อสร้างอาคาร”รัฐสภาแห่งใหม่”บริษัทชิโน-ไทยฯ,แกนนำ พรรคเพื่อไทย,
////////////
ธีรพล ปลื้มถนอม (ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ) รายงาน