วันที่ 16 มี.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดอรัญญาวาส หมู่ที่1 ต.วังโป่ง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ชาวอำเภอวังโป่ง จัดงานประเพณีก่อพระเจดีย์ทรายกลบธาตุ ประเพณีเก่าแก่ที่แสดงถึงความกตัญญูต่อบุพการีที่สืบทอดกันมานับร้อยปี โดยมีพี่น้องประชาชนทั้งอำเภอวังโป่งและอำเภอใกล้เคียงมาร่วมงานอย่างคับคลัง
พระครูสัทธาพัชราภิรัต เจ้าคณะตำบลวังโป่ง เจ้าอาวาสวัดอรัญญาวาส กล่าวว่า ช่วงก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ตรงกับวันตรุษไทย คือ วันแรม 14 ค่ำ เดือน 4 และวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 ที่วัดอรัญญาวาส จะจัดประเพณีก่อพระเจดีย์ทรายกลบธาตุ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีความสำคัญและทรงคุณค่าสำหรับชุมชน แห่งนี้
ประเพณีการก่อพระเจดีย์ทรายของชาววังโป่งนี้ ไม่ใช่แค่มีศรัทธาอันแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังแฝงถึงความเชื่อด้วยว่า การก่อพระเจดีย์ทรายยังเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบุพการีรวมทั้งญาติพี่น้อง ที่ล่วงลับ ขณะเดียวกันยังสานสัมพันธ์ไมตรีในหมู่เครือญาติและครอบครัว รวมทั้งทำให้ความรักสามัคคีขึ้นในชุมชนอีกด้วย
รูปแบบของการก่อพระเจดีย์ทรายของชาววังโป่งอาจจะแตกต่างไปจากที่อื่นบ้าง เนื่องจากจะมีการนำ “ธาตุ” หรือ “อัฐิ” หรือ “เถ้ากระดูก” ของญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว มาทำพิธีกลบทรายฝังธาตุ เพื่อให้อัฐิหรือเถ้ากระดูกได้สัมผัสกับธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ แฝงด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นการอุทิศบุญกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตหรือผู้ล่วง ลับไปแล้ว เพื่อให้ดวงวิญญาณสู่สัมปรายภพอย่างสุคติ
แต่เดิมนั้นก่อนถึงวันประกอบประเพณีก่อพระเจดีย์ทรายกลบธาตุ ชาววังโป่งจะช่วยกันตีฆ้องร้องป่าวประกาศให้ชาวบ้านได้รับรู้และเตรียมตัวไป ร่วมงานก่อน 3 วัน ช่วงนี้เองที่บรรดาญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดจะเดินทางกลับมาร่วมทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการีและญาติที่เสียชีวิต เมื่อถึงวันก่อพระเจดีย์ทราย ชาววังโป่งก็จะนำอัฐิหรือเถ้ากระดูกติดมาที่วัด ซึ่งระหว่างการก่อพระเจดีย์ทราย จะนำโกฏิหรือภาชนะที่บรรจุเถ้ากระดูกฝังไว้ จากนั้นนำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีพระภิกษุนำสวดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต หากปฏิบัติติดต่อกัน 3 ปี ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์ตามประเพณี จากนั้นจะนำไปบรรจุไว้ตามสถานที่ต่างๆ หรือนำขึ้นหิ้งเพื่อบูชา ผู้ที่มาร่วมก่อเจดีย์ทรายล้วนเป็นญาติพี่น้องในครอบครัว ทั้งเด็กๆ ผู้หญิงและคนชรา ทุกคนต่างใช้สองมือช่วยกันตบแต่งกองทรายกองเล็กๆ จนกลายเป็นเจดีย์ทรายเล็กๆ มีการตบแต่งประดาด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม และนำโกฏิบรรจุอัฐิมากลบฝังหรือตั้งไว้ข้างพระเจดีย์ทราย เพื่อรอให้ผู้สูงอายุที่ทรงศีลมาสวดบังสุกุลให้ ถือเป็นการจบพิธี
เดชา มลามาตย์/มนสิชา คล้ายแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์