เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 หลังจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดลมพายุ ฝนตกกระหน่ำในหลายพื้นที่ของจังหวัดเพชรบูรณ์ เช่นเดียวกับ อำเภอหนองไผ่ พบว่ามีบ้านเรือนราษฎร รวมทั้งยุ้งฉาง ในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ต.บัววัฒนา ต.บ้านโภชน์ และ ต.วังท่าดี ถูกลมพายุพัดพังเสียหาย รวมทั้งหมด 6 หลัง (บ้านเรือน 4 หลัง และยุ้งฉาง 2 หลัง) โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 95 หมู่ 7 บ้านซับวาริน ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ของนางกำมา พรหมบุญมี อายุ 81 ปี ซึ่งเป็นบ้านปูนลักษณะชั้นเดียว หลังคามุงด้วยสังกะสี ถูกลมพายุหมุนกระหน่ำจนหลังคาเปิดขึ้นทั้งแถบ หนำซ้ำแรงลม ยังยกเอาโครงหลังคาบ้าน ทั้งไม้ทั้งสังกะสี ไปฟาดใส่กับบ้านข้างเคียง ของนายวีรภัทร หารลือชัย อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 97 หมู่ 7 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จนหลังคาบ้านยุบ พังเสียหายบางส่วน
เบื้องต้น ทางเทศบาลตำบลบัววัฒนา อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เร่งออกสำรวจความเสียหายจากเหตุวาตภัยทั้งหมดแล้ว พร้อมประเมินค่าซ่อมแซม ก่อนสนับสนุนงบประมาณ จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองร้อยบรรเทาสาธารณภัย กองพลทหารม้าที่ 1 กรมทหารม้าที่ 3 กองพันทหารม้าที่ 13 จัดส่งกำลังพลทหาร เข้าช่วยเหลือ เก็บกวาดสิ่งของที่ชำรุดเสียหาย พร้อมทั้งรื้อโครงสร้างหลังคาบ้าน ซึ่งเป็นไม้เก่าที่เริ่มพุพัง เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมให้เสร็จโดยเร็ว เนื่องจากช่วงนี้ พบว่ายังคงมีลมฝนมาอย่างต่อเนื่อง
จากการสอบถาม นางกำมา พรหมบุญมี อายุ 81 ปี เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว กับลูก หลาน รวมทั้งหมด 5 คน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ตนกำลังเลี้ยงหลานอยู่ในบ้าน เพียง 2 คน จากสภาพอากาศภายนอกที่ร้อนอบอ้าว ก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นฝนเริ่มตั้งเค้า ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ตนจึงเดินออกมายืนมองตรงประตูบ้าน ต่อมา ได้มีลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นพายุหมุน ด้านฝั่งทิศตะวันออก ก่อนสังเกตว่าพายุกำลังหมุนมาทางบ้านตนเอง จึงรีบพาหลานหาที่หลบเพื่อความปลอดภัย กระทั่งพายุได้พัดกระหน่ำใส่ตัวบ้าน จนหลังคาเปิด และปลิวไปฟาดใส่บ้านเรือนข้างเคียง ได้รับความเสียหาย จากนั้นก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก นานกว่า 20 นาที ส่งผลให้ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ที่นอน หมอนมุ้ง เครื่องใช้ไฟฟ้า ทรัพย์สินมีค่าบางส่วน เปียกน้ำเป็นจำนวนมาก เคราะห์ดีขณะเกิดเหตุ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระทึก ดังกล่าว
ราเมธ บงแก้ว/มนสิชา คล้ายแก้ว ผู้สื่อข่าวจังหวัดเพชรบูรณ์