วันนี้ 19 ก.พ. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ม.10 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล พบครอบครัวหนูน้อยยากจนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่หาเช้ากินค่ำ ลูกวัยขวบเศษตาบอด 2 ข้าง เส้นเลือดหัวใจตีบ ส่วนคนน้อง 9 เดือน หัวใจตีบหอบหืด หายใจไม่สะดวกงอแงตลอดเวลา หลังจากสื่อโซเชียล ได้มีการแชร์ภาพหนูน้อยวัยขวบเศษตาบอดทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากแม่ต้องการความช่วยเหลือคือรถเข็นน้อง ยามเดินทางไปหาหมอเพื่อความสะดวก
ขณะที่ ทางเข้าไปบ้านน้องน้ำหวาน เป็นซอยเล็กๆอยู่ลึกเข้าไปในสวนยางพารา บ้านเลขที่ 409 ม.10 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล น.ส.กมลวรรณ แก้วสวัสดิ์ อายุ 22 ปี แม่ของ ด.ญ.รัตนาภรณ์ บูอีตำ หรือน้องน้ำหวาน วัย 1 ขวบ 9 เดือน โดยมีนายสราวุธ บูอีตำ อายุ 36 ปี พ่อของน้องน้ำหวานคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ น.ส.กมลวรรณ แม่น้องน้ำหวานเล่าให้ฟังว่า น้องน้ำหวานพิการมาตั้งแต่เกิด โดยตอนเกิดนั้นน้องมีลักษณะคล้ายเด็กดาวน์ มีตุ่มในตา เกิดที่รพ.ควนกาหลง ในวันพุธและถูกส่งตัวมารพ.สตูล ในวันจันทร์ หรืออีก 5 วันต่อมา เมื่อมาถึงทางรพ.สตูลบอกว่า น้องเลนตาดีแตก และรีบส่งตัวไป รพ.หาดใหญ่ และส่งต่อมอ.ตามลำดับ
นอกจากนี้ น้องน้ำหวานยังมีโพรงน้ำในสมองบวม หัวโต เส้นเลือดหัวใจตีบเหลือ 60 เซ็นต์ พัฒนาการช้า ต้องเข้า-ออกรพ.ทุกเดือน น้องโตขึ้นเรื่อยๆ เวลาจะพาไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้องชอบนอนตลอดเวลา อาการงอแง ตอนกลางคืนไม่นอน เพราะน้องมองไม่เห็นไม่รู้กลางวันกลางคืน สภาพครอบครัวลำบาก ในบ้านอยู่กัน 8 คน ประกอบด้วย พ่อแม่ของตน น้องชาย ตนและสามี พร้อมลูกอีก 3 คน รวม 8 คน ซึ่งรายได้มาจากพ่อ และสามีที่รับจ้างกรีดยาง วันละ 400 บาท ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะลูก 2 คนที่มีปัญหา เพราะนอกจากน้องน้ำหวาน ยังมีน้องเวียร์ ด.ช.อัซฟา บูอีตำ อายุ 9 เดือน เป็นโรคหัวใจตีบ และหอบ มีเสมหะอยู่ในคอตลอดเวลา ลูกทั้ง 2 คนจะงอแง ตนต้องคอยดูแลตลอด
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีคนให้ความช่วยเหลือ จากพมจ.และศูนย์การศึกษาพิเศษจ.สตูล ที่เข้ามาช่วยเหลือมอบเงินช่วยเหลือ แพมเพิร์ส และนม ซึ่งนมนั้นเป็นนมที่มีราคาแพงมาก เพราะเป็นนมชนิดพิเศษ ส่วนการพาน้องน้ำหวานไปหาหมอ เดือนละ 2-3 ครั้ง ต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 2-3 พันบาท เพราะไปรถโดยสารไม่ได้ต้องไปยืมรถเพื่อนบ้านญาติพี่น้อง เลยอยากได้รถเข็นเด็กแบบนอนให้น้องน้ำหวาน และทำห้องให้น้องเวียร์ เพราะช่วงนี้ลมแรงฝุ่นมาก น้องเวียร์ต้องประสบปัญหาหอบหืดน่าสงสาร ขณะที่ผู้เป็นแม่ยังเผยอีกว่า ตอนแรกตนก็พยายามที่จะเลี้ยงดูให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังมี แต่ทางศูนย์การศึกษาพิเศษที่เข้ามาดูแลน้อง ได้ขออนุญาตินำภาพน้องมาลงสื่อสังคมออนไลน์ เผื่อมีคนเมตตามาช่วยเหลือ ตนก็เห็นด้วย เพราะสงสารน้องทั้ง 2 คนมาก
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล