กิ่ง-เหมือนแพร โชว์ความสามารถรอบด้าน
ทั้งร้อง ทั้งบู๊ ติดใจงานแสดง อยากลองบท “ดราม่า”
สาวร่างเล็กที่ดูบอบบางแต่ทว่าแข็งแกร่งดั่งชายในละครเรื่อง “แม่สื่อจอมป่วน” ค่ายปภัสราโปรดักชั่น อย่างนักร้องสาวเสียงดี กิ่ง-เหมือนแพร พานะบุตร ที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงเต็มตัวในละครเรื่องนี้ กิ่งเล่าให้ฟังเล่าให้ฟังว่า คาแร็กเตอร์เรื่องนี้ออกจะห้าวๆ เพราะเป็น นักมวย ของค่ายสองหมั่ดสั่ง แต่ก็มีมุมน่ารัก เพราะชอบการร้องเพลง เรื่องร้องเพลงสาวกิ่งบอกไม่ยาก…เพราะเธอร้องในสไตล์ของตัวเอง เพลงที่ร้องก็เป็นเพลงลูกทุ่งแนวสนุกสนาน แต่ที่หนักอกหนักใจคงจะเป็นเรื่องการบู๊เตะต่อยที่ยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญ ดีที่ว่ามีพี่ๆ นักแสดงที่เป็นนักมวยอยู่เพียบ ทั้ง สมจิตร จงจอหอ, สมรักษ์ คำสิงห์ และ ขาวผ่อง สิทธิชูชัย
สาวกิ่งมีเรื่องเล่ามากมายจากการถ่ายทำละครเรื่องนี้ เรามารู้จักกับเธออีกนิด เพราะมุมมองในการที่เธอเริ่มติดใจการแสดงเข้าให้แล้ว….
ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกหรือเปล่า
ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองของกิ่ง โดยเรื่องแรกเหมือนกับรับเชิญมากกว่า มาเรื่องนี้ต้องบอกว่าได้แสดงแบบเต็มตัวครั้งแรกที่ช่อง 7 เลย เพราะเราเหมือนเป็นคู่หูกับสาม นางเอกที่ไปไหนไปด้วยตลอด ยอมรับว่าตอนแรกที่พี่กบ ปภัสรา ติดต่อมาก็ตกใจนะคะ เพราะเชื่อว่าพี่เขาต้องไม่เคยเห็นกิ่งแสดงแน่ เพราะประสบการณ์ตรงนี้แทบไม่มีเลย แต่พอได้คุยกับพี่กิ๊บ ทีมของพี่กบก็ถึงเข้าใจว่าทำไมมาเลือกเรา เพราะคาแร็คเตอร์ก็ค่อนข้างตรงกับกิ่งคือเป็นเฮฮาลุยๆ ผมสั้นดูแก่นๆ ดูไปตัวจำปีก็มีความคล้ายกับกิ่งหลายอย่าง รวมไปถึงเรื่องความรักเพื่อนรักครอบครัวกิ่งก็จะไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าใครจะมาว่าครอบครัวหรือเพื่อนเราที่เรารัก อีกทั้งนิสัยเป็นคนไม่คิดอะไรมากเหมือนกัน มองโลกในแง่ดีค่ะ จะมีความต่างกับตัวกิ่งก็ตรงในเรื่องจะต้องบู๊หนักมาก ชีวิตจริงกิ่งเป็นคนเล่นกีฬากลางแจ้ง พวกเล่นเรือใบ วินเซิร์ฟ เรื่องตากแดดไม่มีปัญหา แต่ไม่มีกีฬาต่อยมวยอยู่ในนั้น (หัวเราะ) พอรู้ตัวว่าในเรื่องต้องต่อยมวยกิ่งก็เลยไปลงคอร์สออกกำลังกายที่ใช้ต่อยมวย แต่ไม่ถึงกับเรียนแม่ไม้ขนาดนั้น เพียงให้ร่างกายพร้อมรู้ว่าเตะต่อยยังไงให้เซฟไม่เจ็บ
ฉากที่ว่ายากของกิ่งก็คือฉากบนเวทีมวยนี่แหละ เพราะจำปีเป็นนักมวยหญิงที่เก่ง มีความมั่นใจไม่กลัว เวลาแสดงเราก็ต้องทำเหมือนเราเก่ง แต่จริงๆ ในใจก็แอบใจสั่นอยู่เหมือนกัน เพราะคู่ต่อสู้ที่มาเข้าฉากแต่ละคนตัวใหญ่มาก แถมยังเป็นสตั้นแมนที่ชกมวยเก่งๆ ด้วย แต่กิ่งก็พยายามบอกตัวเองว่า เราต้องมีความเชื่อในตัวแสดงว่าเธอเก่ง มีความไว ไม่กลัวใครทั้งนั้น แต่พอถ่ายผ่านมาได้มันก็ทำให้กิ่งรู้สึกสนุกมากๆ บอกตัวเองว่าเราก็ทำได้เหมือนกันนะ ตอนนี้ก็เลยสนุกกับการออกกำลังกายที่เป็นต่อยมวยไปด้วยเลย
ได้ข่าวว่าเครียดมากกับฉากที่ต้องต่อยมวยกับนักชกตัวใหญ่ๆ
ใช่ค่ะ เป็นฉากที่ยากด้วยนะ คิดว่าที่ยากที่สุดก็ตอนชกกับไตตั้น ตัวใหญ่มาก ในเรื่องจะเป็นคู่อริกันเลย แถมยังทำท่าและพูดเหมือนดูถูกเราว่าจะจับเราทำเมียอีก ในฉากจำปีก็อยากจะพิสูจน์ว่าแม้จะเป็นผู้หญิงแต่ไม่ได้จะต้องแพ้ผู้ชายนะ ในฉากเราเลยต้องสู้ ยอมรับว่ากิ่งเครียดมากกับฉากนี้ เพราะกำหนดเวลาถ่ายครึ่งเช้า ถ่ายสามยกใหญ่ๆ จะเป็นฉากที่เห็นลีลาจำปีโชว์แม่ไม้มวยไทยเต็มที่ แล้วไตตั้นก็ตัวเป็นยักษ์ กิ่งก็เลยแอบกลัวว่าจะเป็นตัวถ่วงทีมงานหรือเปล่า แต่สุดท้ายกิ่งก็ต้องขอบคุณจริงๆ ในเรื่องนี้มีนักมวยจริงๆ อยู่เพียบเลย ทั้งพี่สมจิตร พี่สมรักษ์ ซึ่งพี่ทุกคนก็บอกว่า เชื่อว่าเราทำได้นะ มันก็ทำให้มีกำลังใจ อุ่นใจมีความเชื่อในครูที่สอนเรา เรื่องพลาดคิวมีอยู่แล้วเพราะในฉากโชว์แม่ไม้เยอะมากแต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลังถ่ายเสร็จมาเช็คภาพที่ออกมาก็พอใจนะคะเพราะเราก็เต็มที่กับมันจริงๆ นะ แต่ก็มีฉากที่ประทับใจอยู่เหมือนกัน
กิ่งชอบฉากที่อยู่กับสาม แต่ในหมวดที่ซึ้ง คือในเรื่องเวลาจำปีอยู่กับสามมันจะเหมือนลูกกระจ๊อก ว่าไงก็ว่าตาม ถ้าขัดก็จะโดนมักเง๊ก แต่มีวันหนึ่งมีฉากนึงที่เข้ากับสาม กิ่งรู้สึกเหมือนน้ำตาคลอไปด้วย เป็นฉากที่ป๋าสองไม่ยอมให้สามไปต่อยมวย ป๋าบอกว่าเรื่องการต่อยมวยให้เป็นหน้าที่ของจำปีเถอะ เพราะเป็นนักมวยของค่ายนี้ ทุกคนก็ห้ามสามด้วยความเป็นห่วง จำปีก็รักสามเหมือนพี่น้องรู้สึกห่วงจริงๆ ตอนแสดงก็เลยน้ำตาคลอ… กิ่งก็เลยรู้สึกชอบฉากนี้มากรู้สึกอินสุดๆ ค่ะ
ความที่ไม่มีพื้นฐานในการแสดงเลยจากนักร้องมาเป็นนักแสดง หลังจากได้ลิ้มลองการแสดงแล้ว กิ่งรู้สึกอย่างไรบ้าง
การแสดงนี่ยากนะ กิ่งรู้สึกว่าการเป็นนักแสดงต้องมีระเบียบวินัยมากๆ คือต้องจำบท แล้วจำบทยังไงให้พูดออกมาเป็นธรรมชาติ มันเป็นอะไรที่ดูหลายชั้นมาก แต่สำหรับบทนี้ของกิ่งๆ มองว่ามันสนุกมากกว่ายาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะละครเป็นแนวคอเมดี้ ทุกครั้งที่มากองมาเล่นกิ่งก็เลยรู้สึกสนุกมากกว่าที่จะรู้สึกกดดัน แต่ถ้าเป็นละครแนวดราม่ากิ่งคงจะเครียดกว่านี้ เพราะเราต้องใช้ทักษะในการแสดงเยอะ แต่พอเป็นคอเมดี้บางทีกิ่งก็รู้สึกมันเป็นธรรมชาติ เลยสนุกไปกับการแสดงค่ะ ทำให้กิ่งเริ่มชอบการแสดงแล้วและก็อยากรู้ว่าถ้าบทที่มันเข้มข้นกว่านี้ แนวดราม่าเราจะเล่นได้หรือเปล่า เริ่มอยากลองในบทอื่นๆ แล้ว อีกทั้งกิ่งชอบบรรยากาศในกองถ่ายมันสนุกดีได้เจอเพื่อนๆ ร่วมงานมันเหมือนได้เรียนจากนักแสดงคนอื่น และจากผู้กำกับฯ ด้วย ทำให้กิ่งรู้สึกว่าการเป็นนักแสดง มันให้อะไรเราเยอะ มันทำให้เราเข้าใจคนในแต่ละแบบมากขึ้นไปโดยปริยายค่ะ
ในเรื่องนี้มีคู่ด้วยนี่….
จริงๆ ทีแรกก็ไม่มีนะคะ แต่ไปๆ มาๆ ตอนหลังได้คู่กับปลัดณัฐภูมิ เขาผิดหวังมาจากสาม แล้วหลังๆ ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายจำปีก็จะเข้าไปช่วยปลัดตลอด ปลัดก็เลยคงประทับใจ ส่วนบทจำปีก็ไม่ใช่ทอมนะ สุดท้ายก็เป็นผู้หญิงนั่นแหละ ซึ่งก็มีฉากกุ๊กกิ๊กกันนะ ปลัดเอาดอกไม้มาให้จำปี ซึ่งเราก็จะเขินสิ ก็เป็นการเขินโดยธรรมชาติค่ะ(หัวเราะ) เพราะที่ผ่านมาจำปีก็จะห้าวเกิน จู่ๆ มีผู้ชายมาบอกว่าขอบคุณ คอยถามว่าเหนื่อยมั้ย ก็รู้สึกว่ามาถามทำไม ฉันก็โอเคนี่…แต่ในใจก็หวั่นไหวนิดๆ แหมก็ปลัดมาแบบอย่างหล่อนะ (หัวเราะ)
เรื่องของร้องเพลงก็ยังร้องอยู่ใช่มั้ย
ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นครูสอนร้องเพลงด้วย แล้วก็ยังทำเพลงกับเพื่อนๆ ด้วย โดยที่ตั้งใจไว้จะออกมาเป็นลักษณะของวงผู้หญิงล้วน ไม่เป็นเดี่ยวแล้ว แต่ชื่อวงยังไม่ได้คิดเลย สมาชิกก็เป็นเพื่อนๆ ที่เรียนดุริยางค์ ศิลปากรด้วยกันค่ะ จริงๆ กำลังเริ่มฟอร์มวง คิดไอเดียว่าจะทำแนวไหน ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างชัดเจน แต่ที่แน่ๆกิ่งจะเป็นนักร้องนำค่ะ
ฝากทิ้งท้ายถึงคนดูหน่อยจ้า
ตอนถ่ายทำละครเรื่องนี้สนุกมาก กิ่งก็หวังว่าคนดูจะดูแล้วสนุกไปกับละครเรื่องนี้ แล้วอยากให้คนที่ดูหลงรักในตัวจำปี มีความเชื่อในตัวจำปี ซึ่งกิ่งเชื่อว่าหลายคนที่ดูละครอาจไม่รู้จักกิ่ง เดอะสตาร์ หรือ กิ่ง เหมือนแพร ที่เป็นนักร้อง ฉะนั้นกิ่งก็หวังว่า ถ้าใครเจอกิ่งจะจำกิ่งว่า…นี่ “จำปี” อะไรแบบนี้ค่ะ
ทั้งเก่ง ทั้งน่ารักแบบเนี้ย…ไม่รัก จำปี ไม่ได้แย้ววว…!!!!