เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ เขมรจะได้เปรียบกว่า eec มาก
1. สีหนุวิลล์ จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อการคมนาคม และการค้าของเส้นทางสายไหม ทางบกและทะเลระหว่างจีนกับอาเซียนใต้
2. จะมีท่าเรือใหญ่ที่สุดในอาเซียน
3. สีหนุวิลล์สามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมทางบก กับ ไซ่ง่อน ฮานอย สู่คุนหมิงไปทั่วโลก ในขณะที่ eec เชื่อมกับ เส้นทางสายไหมทางบก ไปทั่วโลกไม่ได้
4. จากสีหนุวิลล์ สามารถ เชื่อมต่อกับศูนย์กลางการค้า พืชผลทางการเกษตรจีนอาเซียน ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เวียดนาม ผ่านด่านผิงสิงก่วนของจีน โดยมีอัตราภาษีแค่ 4 % ในขณะที่eecเชื่อมกับจุดนี้ไม่ได้ และต้องเสียภาษี 15%
5. สีหนุวิลล์สามารถเชื่อมต่อกับสนามบินเสียมเรียบ ซึ่งกำลังพัฒนาเป็นศูนย์กลางการบินจีนอาเซียน ที่เครื่องบินจากทุกมณฑลของจีนจะมาลงที่เสียมเรียบ และบินไปสู่อาเซียน ในขณะที่ สนามบินของเราอาจได้รับผลกระทบจากการใช้น่านฟ้า เพิ่มขึ้นของลาวเขมรและเวียดนาม
6. ขณะนี้การพัฒนาสีหนุวิลเริ่มต้นแล้ว โดยมีการระดมแรงงานช่างกว่าสองแสนห้าหมื่นคนเข้าไปพัฒนาในขณะที่ร่างกฎหมายอีอีซียังไม่เสร็จ และคงยังมีปัญหาเกิดขึ้น ในการพิจารณากฎหมายนี้อีกหลายขั้นตอน
ดังนั้นหากจะลงทุน 1.8 ล้านล้านบาท ก็ต้องใคร่ครวญให้ดี ยังยืนยันว่าประเทศไทยต้องรีบเชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมทางบกและทางทะเล เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ และฝั่งทะเลของทั่วโลกให้ได้ ความคิดที่จะลงทะเล แค่ ท่าเรือแหลมฉบังมาบตาพุดไปญี่ปุ่นนั้น จะเกิดหายนะใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติอย่างแน่นอน
อย่าคิดว่า ถ้าไม่เชื่อมต่อกับเส้นทางสายไหมแล้วเขาจะเชื่อม จีนอาเซียนไม่ได้ เขาจะเชื่อมได้ทั่วถึงทั้งหมด แต่จะทำให้ประเทศไทยต่างหาก ที่เชื่อมกับใครไม่ได้ ความคิด ที่จะขัดขวางเส้นทางสายไหมจีนอาเซียนก็ดีความคิดที่จะสร้าง Thailand SILK ROAD ไปแข่งกับเขาก็ดี คือหายนะ ที่ทำกับบ้านเมืองของเรา