พระครูสุทธิวราภรณ์ หรือ หลวงปู่สรวง วรสุทโธ เจ้าอาวาสวัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี มรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลเปาโล กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 25 มกราคม 2561 สิริรวมอายุ 84 ปี 60 พรรษา นับเป็นเกจิอาจารย์ร่วมสมัยในยุคนี้ ที่ได้รับการยอมรับนับถือในฐานะ “พระดีศรีเมืองละโว้” ท่านเป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย สงบ นิ่งบริสุทธิ์ สุขุม แม้จะไม่ใช่พระสายพุทธาอาคมขลัง เพราะโด่งดังมาตามเส้นทางสายป่าวิปัสสนากรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แต่ความเชื่อความศรัทธาในบุญบารมี และของดีที่ท่านสร้างสรรค์ขึ้น ล้วนมีกระแสตอบรับที่ดีเหนือคำบรรยาย ท่านได้รับสมญาว่า “เจ้าตำรับไก่ฟ้าพญาเลี้ยง” และ “เทพเจ้าแห่งขุนเขาสาริกา” ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
ประวัติ “หลวงปู่สรวง” วรสุทโธ หรือ พระครูสุทธิวราภรณ์ เดิมชื่อ สรวง พรหมสวัสดิ์ ท่านเกิดเมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2476 ตรงกับวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ปีระกา ณ บ้านเลขที่ 1 หมู่ 10 บ้านน้อยนาเวิน ต.โพนเมืองน้อย อ.หัวตะพาน จ.อุบลราชธานี (สมัยนั้น) ปัจจุบันอยู่ในเขตของ จ.อำนาจเจริญ
“หลวงปู่สรวง” อุปสมบทเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ครั้งแรก เมื่อปี 2496 เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ขณะนั้นมีโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสเสด็จนิวัติกลับมาประเทศไทย พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ท่านจึงตัดสินใจออกบวช ณ พัทธสีมา วัดศรีบุรีรัตนาราม ต.ปากเพียว อ.เมือง จ.สระบุรี จากนั้นมีโอกาได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่แขม หรือ อดีตเสือฝ้าย เสือรุ่นเก่าก่อนเสือมเหศวร ยอดเกจิขมังเวทย์ ที่วัดบ้านพึ่ง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี รวมถึงได้ไปกราบสนทนาธรรม และเรียนวิชาจากหลวงปู่ขอม วัดไผ่โรงวัว
กระทั่งปลายปี พ.ศ. 2497 ท่านก็ลาสิกขาเดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ในช่วงชีวิตวัยหนุ่มวัยรุ่นหลวงปู่ใช้ชีวิตเยี่ยงปุถุชนทั่วไป นานวันเข้าก็เกิดเบื่อหน่ายทางโลก เพราะมีแต่การแข่งขัน อิจฉาริษยากัน คลั่งไคล้หลงใหลในวัตถุมากกว่าจิตใจ ท่านจึงตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ อีกครั้ง อุปสมบทเป็นพระภิกษุใน พ.ศ. 2500 เป็นพระฝ่ายมหานิกายเหมือนครั้งแรก โดยมีเจ้าอธิการคำ อิณณมุตโต วัดบางชะแงะ อ.หัวตะพาน จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น จ.อำนาจเจริญ ) เป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วกลับไปจำพรรษากับหลวงปู่แขม ท่านได้สอนสรรพวิชาอาคมต่างๆ ให้จนหมดสิ้นตลอด 2 พรรษา และยังได้เรียนวิชากับหลวงพ่อแขกวัดหัวเขา, เรียนสักยันต์กับอาจารย์ผาด หรือเสือผาด
ต่อมา “หลวงปู่สรวง” ออกธุดงค์ มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระป่าสายกรรมฐานหลายรูป เกิดความศรัทธาและสนใจในวิปัสสนากรรมฐานจริงจัง โดยก่อนเดินทางได้กลับไปเยี่ยมบ้านและพบกับพระอาจารย์คำบุ ธัมมธโร สหธรรมิกของพระอาจารย์จวน ท่านจึงพาไปพบกับพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และได้รับการแนะนำให้สวดญัติใหม่เป็นฝ่ายธรรมยุต
ขณะที่ พ.ศ. 2502 “หลวงปู่สรวง” ท่านได้ญัตติใหม่ (บวชใหม่) ในสังกัดธรรมยุตินิกาย ณ วัดประชานิยม ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร โดยมีพระครูพุฒิวราคม วัดบ้านหนองดินดำเป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการบุญมี จิตปุญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้อยู่จำพรรษาที่วัดประชานิยมซึ่งมีพระอาจารย์บุญ ชินวังโส เป็นเจ้าอาวาส จากนั้นศึกษาพระกรรมฐาน ออกธุดงค์กับหลวงปู่ขาว อนาลโย, พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, พระอาจารย์วัน อุตตโม, พระอาจารย์คำบุ ธัมมธโร และ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมม วโร แลกเปลี่ยนธรรมะ และแนวทางปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนเชี่ยวชาญดีแล้ว ก็กราบลาเดินธุดงค์ไปทั่วสารทิศ เผชิญสัตว์ร้าย สิงสาราสัตว์ ภูตผีปิศาจ มารร้ายนานาชนิด ท่านก็ผ่านมาได้ด้วยความมุ่งมั่นในธรรม
ระหว่างที่ธุดงค์อยู่ตามชายฝั่งแม่น้ำโขงได้ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ตาเดียว พระกรรมฐานในป่า ผู้เรียนวิชาจากสมเด็จลุน และญาท่านกรรมฐานแพง ได้เรียนวิชาตำราโบราณตะกรุดไก่แก้ว-ไก่เถื่อน สาลิกา สีผึ้งพญาหงส์ทองจาก อาจารย์ทา ฆราวาสชาวเขมรที่ จ.ศรีสะเกษ และอาจารย์เพ็ง จ.อุบลราชธานี ศิษย์ฆราวาสสมเด็จลุน หลังจากเดินธุดงค์มาสร้างวัดที่ จ.ลพบุรีแล้ว หลวงปู่สรวงยังมีโอกาสถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างพระยันต์ นะ ครอบจักรวาลกับหลวงปู่ดู่ด้วย
วันหนึ่งเสมือนทวยเทพเทวาบันดาลหรือบุญวาสนาเกื้อหนุนก็สุดจะคาดเดา หลวงปู่สรวง ธุดงค์ผ่าน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เกิดนิมิตประหลาดเห็นเทพเทวา 3 องค์เหาะมาหา พาไปเที่ยวชมถ้ำพรหมสวัสดิ์ ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พร้อมบอกว่า “ถึงเวลาต้องกลับมาสร้างบารมีในที่เก่าของท่านแล้ว” สมัยนั้นถ้ำเขาพรหมสวัสดิ์เลื่องลือเรื่องผีดุมาก ในถ้ำมีโครงกระดูกคนโบราณ ซากช้าง ม้า วัวควายตายเกลื่อน ยามโพล้เพล้ไม่มีใครกล้าเดินผ่าน แต่หลวงปู่กลับไม่หวั่นไหวเดินเข้าไปปักกลดพำนักในถ้ำ มีงูเหลือมยักษ์มานอนเป็นเพื่อนทุกคืน ทีแรกชาวบ้านตกใจกันมาก จนกลายเป็นความศรัทธาเริ่มแวะเวียนไปทำบุญใส่บาตร และช่วยพัฒนากลายเป็นวัด โดยใช้นามสกุลของท่านตั้งชื่อวัดถ้ำพรหมสวัสดิ์ และพัฒนาจนเจริญรุ่งเรืองตราบเท่าทุกวันนี้
ทั้งนี้ “หลวงปู่สรวง” มักพูดสอนญาติโยมที่เดินทางไปกราบไหว้ขอพร คือการได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสานาถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ ฉะนั้นจงอาศัยร่างกายอันนี้ บำเพ็ญบุญกุศลให้มากๆ จะได้ไม่เสียทีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา
ใจรัก วงศ์ใหญ่ ข่าว/ภาพ ศูนย์ข่าว 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี