วันที่ 19 ม.ค.61 น.ส.ปิยาภรณ์ เวชการ 23 ปี ที่อยู่ 201/4 ถ.เทศบาล 4 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ได้ขึ้นสถานีตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี ไปพบกับ ร.ต.อ.เสกสรร อุดมทรัพย์ ร้อยเวร สภ.เมืองสระบุรี ขอแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองสระบุรี 2 ข้อหา 1.ลักทรัพย์ 2.ทารุณกรรมสัตว์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ม.ค.61 เวลา 09.00 น. ที่วัดป่าสัก หรือที่รู้จักกันว่า ชุมชนวัดป่าสัก ได้มีพนักงานของเทศบาลเมืองสระบุรี มาประมาณ 3-4 คน ได้มาจับสุนัขในวัดป่าสัก ไปประมาณ 14-15 ตัว
นาง ปิยาภรณ์ กล่าวว่า สุนัขที่เจ้าหน้าที่เทศบาลจับไปนั้น เป็นสุนัขเสมือนของตนเอง เพราะว่าตนเองได้ให้ข้าวให้น้ำกินทุกวัน ถึงจะอยู่ในวัดก็ตาม จึงได้ไปพบกับ นาย ถาวร ชัยฤกษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ในวันที่ 18 ม.ค.61 เพื่อขอรับสุนัขคืนทั้งหมด 15 ตัว แต่ นายถาวร ชัยฤกษ์ รองนายกเทศบาล บอกให้ทำหนังสือมาขอ และจะพิจารณา ต่อมานาง ปิยาภรณ์ ได้ทำหนังสือถึง รองนายกถาวร แต่ก็ไม่ยอมคืนสุนัขให้ อ้างว่า คำขอไม่มีเหตุผลที่จะคืนสุนัขให้ เพราะว่า สุนัขทุกตัวเป็นสุนัขจรจัดที่คนเอามาทิ้งไว้ที่วัด และไม่มีเจ้าของ จึงให้ไปไม่ได้ ต่อมา น.ส.ปิยาภรณ์ ได้มาแจ้งความในวันนี้ เพื่อเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสระบุรี ตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับ นาย ถาวร ชัยฤกษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ในกรณีที่ น.ส.ปิยาภรณ์ เวชกา ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี นาย ถาวร บอกว่า ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปจับสุนัขที่ วัดป่าสัก หรือ ชุมชนวัดป่าสัก เพื่อให้นำมาเลี้ยงดูแล และรักษาสุนัขที่ไม่สบาย และให้กินยา ฉีดยา บำรุง กับสุนัขทุกตัว เนื่องจากมีคนร้องเรียนเรื่องสุนัขที่ทำให้ชาวบ้านแถวนั้นเดือดร้อน ไม่ว่าจะไปถ่าย หรือฉี่ตามหน้าบ้านของชาวบ้าน จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ได้ไปตามคำสั่ง และไปอย่างเปิดเผย และยังมีประธานชุมชน สมาชิก และพระ วัดป่าสัก มาด้วย และชี้ให้เจ้าหน้าที่จับ เพราะว่าเป็นสุนัขจรจัดอยู่ในวัด ที่มีคนนำมาปล่อยทิ้งไว้ในวัด และขาดคนดูแล แต่ถ้าเผื่อมีคนที่จะมาขอสุนัขคืน ทางเทศบาลก็ไม่ขัดข้อง ถ้าเห็นว่าเหมาะสมเรื่องที่อยู่อาศัยของคนเลี้ยงที่สามารถดูสุนัขได้เป็นอย่างดี ก็จะคืนสุนัขให้โดยไม่มีข้อแม้ แต่อย่าไปปล่อยคืนที่วัดอีก
ส่วนเรื่องที่ น.ส.ปิยาภรณ์ เวชการ ได้บอกว่า ทำหนังสือขอสุนัขคืนถึงตนเอง และตนเองไม่คืนให้ สาเหตุในหนังสือไม่ระบุเลยว่า จะให้สุนัขไปอยู่ที่ไหน อย่างไร ว่ามีที่อยู่หรือยัง ตนเองจึงไม่อนุญาติคืนสุนัขให้ น.ส.ปิยาภรณ์ จึงได้แจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสระบุรี ในข้อหาลักทรัพย์และทารุณกรรมสัตว์ นาย ถาวร รองนายก ก็บอกว่า น.ส.ปิยาภรณ์ ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสุนัข เพียงแต่ว่า เอาข้าวมาให้สุนัขกินตอนเย็นเท่านั้น ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีหมายเรียกเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองสระบุรี ไปรับข้อกล่าวหา ตนเองในฐานะ รองนายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ก็จะไปแจ้งความกลับ เอาผิดกับ น.ส.ปิยาภรณ์ เวชกา ในข้อหาแจ้งความเท็จ และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดต่อไป
ภาพข่าวดำรงค์ชื่นจินดารายงาน
