วันที่ 18 มกราคม 2561 เวลา 08.29 น. นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, พลตรี วันชาติ ผลไพบูลย์ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า, พลตรีอัศวิน บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18, พันเอก อุดม แก้วมหา ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ฯ พร้อมหน่วยทหาร หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ตำรวจ และ ภาคเอกชน ร่วมงานรัฐพิธีถวายเครื่องราชสักการะ กล่าวถวายราชสดุดี, พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวัน “วันยุทธหัตถี ” ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2561
กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ฯ ได้สถาปนาหน่วยตั้งแต่ วันที่ 2 มีนาคม 2522 จนถึงปัจุจบัน ซึ่งมีพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่มีความหมายต่อหน่วย กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ฯ หลังก่อสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2534 ตามแบบของ กรมศิลปกรได้ออกแบบ ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทราได้ร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างศาล และดำเนินการสร้างองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นรูปหล่อด้วยสัมฤทธิ์รมดำเต็มองค์ ขนาดสูง 1 เมตร 70 เซนติเมตร ในท่าหลั่งน้ำทักษิโณทก จากน้ำเต้าทองคำ ดำเนินการโดยกรมศิลปากร
โดยในวันนี้ มีส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายพานพุ่ม และ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ จากนั้น พลตรีวันชาติ ผลไพบูลย์ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า จุดธูปเทียน เครื่องบวงสรวง อนุศาสนาจารย์ กล่าวชุมนุมเทวดาบวงสรวง ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า กล่าวถวายเครื่องบวงสรวง ต่อด้วยจัดพิธีสงฆ์ในการบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายแด่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตามลำดับ
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 กำหนดให้วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันยุทธหัตถี เป็นวันรัฐพิธี เนื่องในวันประวัติศาสตร์สำคัญ ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงได้รับชัยชนะ จากการทำยุทธหัตถี กับ พระมหาอุปราชา ซึ่งเหล่าพสกนิกรชาวไทย ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ ที่ทรงกอบกู้เอกราชของชาติไทย และทรงสถาปนาความเข้มแข็ง มั่นคง แก่ประเทศไทย มาในอดีตกาล อันนำมาซึ่งความสุขสงบ และเกียรติภูมิ ของราชอาณาจักรไทย มาถึงกาลปัจจุบัน โดยการทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี นั้นนับว่า เป็นวีรกรรมครั้งสำคัญ ในประวัติศาสตร์ชาติไทย จนกลายเป็นภาพลักษณ์ของความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวของชาวไทย ที่มีความสมัครสมานสามัคคี เสียสละ ต่อสู้ เพื่อรักษาเอกราชของชาติไทย ให้ชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงมาตราบเท่าทุกวันนี้
ภาพข่าวดำรงค์ชื่นจินดารายงาน