ผู้ประท้วงในไลบีเรียซึ่งกล่าวหารัฐบาลว่ากุเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา บุกปล้นศูนย์กักกันโรค
ในเมืองหลวงของประเทศ ทำให้คนไข้หลบหนีเป็นจำนวนมาก…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงติดอาวุธในประเทศไลบีเรียที่อ้างว่า รัฐบาลกุเรื่อง
การระบาดของไวรัส ‘อีโบลา’ บุกโจมตีและปล้นศูนย์กักกันผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา ในเขตเวสต์พอยต์
ของกรุงมอนโรเวีย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้คนไข้อย่างน้อย 20 คน และพยาบาลในศูนย์ฯ
ดังกล่าวหลบหนีออกไป
นายจอร์จ วิลเลียมส์ หัวหน้าสมาคมแรงงานด้านสุขภาพแห่งไลบีเรีย ยืนยันเรื่องดังกล่าว และว่าศูนย์ฯแห่งนี้
มีคนไข้ที่กำลังรับการรักษาขั้นต้นก่อนส่งไปรับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 29 คน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า
มีคนไข้หนีไปกี่คน “คนไข้ทั้งหมดมีผลตรวจเชื้ออีโบลาเป็นบวก” นายวิลเลียมส์กล่าว พร้อมเผยด้วยว่ามี
คนไข้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ
ขณะที่ รีเบคกา เวสเซห์ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า กลุ่มคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ถือไม่กระบองบุกโจมตี
ศูนย์กักกันผู้ป่วย ซึ่งตั้งอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง และปล้นชิงสิ่งของภายในศูนย์ เธอยังได้ยิน
ผู้บุกรุกคนหนึ่งตะโกนด้วยว่า ประธานาธิบดี เอลเลน จอห์นสัน เซอร์ลีฟ กำลังถังแตก เธอต้องการเงิน
ไม่มีอีโบลาในไลบีเรีย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสนายหนึ่งเปิดเผยว่า เตียงคนไข้เปื้อนเลือด, เครื่องนอน และอุปกรณ์การแพทย์
ถูกนำออกไปจากศูนย์กักกันโรคแห่งนี้ “นี่เป็นเรื่องที่โง่เขลาที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต” ตำรวจนาย
นี้กล่าว และเตือนด้วยว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้เชื้อไวรัสเสี่ยงที่จะแพร่กระจายไปทั่วทั้งเขตเวสต์พอยต์
ซึ่งมีประชากรราว 50,000 คน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ล่าสุดตอกย้ำให้เห็นปัญหาในการเพิ่มความตระหนักรู้เรื่องการต่อสู้กับเชื้อไวรัสอีโบลา
แก่ประชาชน หนึ่งในความพยายามหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อร้ายตัวนี้ ซึ่งกำลังระบาดในหลาย
ประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ได้แก่ กินี, ไลบีเรีย, เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย
ข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออีโบลา
ที่พบในแอฟริกาตะวันตกเพิ่มขึ้นเป็น 2,127 รายแล้ว ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้วถึง 1,145 คน