เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2561 ที่ห้องประชุม TICAC ชั้น 19 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ10) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต หรือ ไทแคค (TICAC) พร้อมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) และนางวีรวรรณ มอสบี้ TIP Hero แถลงผลความร่วมมือในการปฏิบัติงานของ TICAC ที่ผ่านมา ตลอดจนสถานการณ์การล่วงละเมิดทางเพศเด็กผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตในประเทศไทย
พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ศูนย์ไทแคค เป็นความร่วมมือกับสำนักงานสอบสวนกลาง สหรัฐอเมริกา หรือ เอฟบีไอ ในการร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลในการปฏิบัติงาน การล่วงละเมิดทางเพศเด็กผ่านสื่ออินเตอร์เน็ตในประเทศไทย โดยเน้นการสืบสวนแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อหาข้อมูลสำหรับป้องกันและปราบปรามคดีล่วงละเมิดทางเพศ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่มักตกเป็นเหยื่อคดีทางเพศ และยอมรับว่าปัจจุบันสื่อออนไลน์ เข้าถึงได้ง่าย กลุ่มผู้กระทำผิด เปลี่ยนพฤติกรรมใช้สื่อออนไลน์ เป็นช่องทางในการล่อลวงผู้เสียหายมากขึ้น โดยข้อมูลของไทแคค ยังพบว่ามีการล่อลวงเด็กและเยาวชน ถ่ายคลิปทางเพศเผยแพร่ในสื่อออนไลน์มากกว่า 300 กรณี ที่ยังต้องสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ส่วนแนวโน้มเชื่อว่ายังมีการลักลอบกระทำผิดอีกมาก และยังต้องการข้อมูลจากผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดให้แจ้งเบาะแสเข้ามา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนจับกุม แต่ยอมรับว่าในขณะนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการฝึกอบรมบุคลากร เนื่องจากเป็นงานที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเทคโนโลยี
สำหรับสถิติแบ่งตามฐานความผิดของคณะทำงานของศูนย์ไทแคค ระหว่างปี 2558 ถึง 2561 จับผู้กระทำผิดคดีค้ามนุษย์ จำนวน 21 คดี, คดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก จำนวน 13 คดี, คดีครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก จำนวน 31 คดี และส่งกลับออกนอนราชอาณาจักร จำนวน 6 คดี โดยพบว่าผู้กระทำความผิดเป็นผู้ต้องหาชาวไทย จำนวน 38 คน และผู้ต้องหาต่างชาติ จำนวน 35 คน จากทั้งหมด 71 คดี และที่ผ่านมาศูนย์ไทแคค ได้รับเบาะแส จำนวน 209 เรื่อง ดำเนินคดีไปแล้ว 121 คดี และที่เหลืออยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อ
“การกระทำความผิด การถูกล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ซึ่งมีสื่อออนไลน์เป็นตัวกลาง เชื่อว่าแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งน่าเป็นห่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังต้องการข้อมูลจากผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิด ขอให้แจ้งเบาะแสเข้ามาหรือแจ้งความตามโรงพัก เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนจับกุมได้”ที่ปรึกษา สบ.10 กล่าว
//////////////////////////
ภาพ/ข่าว
> cr.แชทป์/ฝั่งธน ( policetv )
> ธีรพล ปลื้มถนอม ( ผู้สื่อข่าว นสพ.๕เหล่าทัพ ) รายงาน