ตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี ได้รับการประสานงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนทราบว่า มีชาวญี่ปุ่นที่มีพฤติการณ์เป็นแก๊งยากูซ่า กระทำผิดในประเทศญี่ปุ่น และหลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย ในพื้นที่ จ.ลพบุรี
พล.ต.ต.ชัยน์วัฒน์ อรัญวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง ผบก.ภ.จว.ลพบุรี นำกำลัง กก.สส.ภ.จว.ลพบุรี ประสานงานกับ ตม.จว.ลพบุรี ทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัว นายชิเกฮารุ ชิเรอิ (Shigeharu shirai) อายุ 74 ปี สืบเนื่องเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2546 นายชิเกฮารุ หัวหน้าแก๊ง ยามากูชิ กูมิ (Yamaguchi-gumi) พร้อมพวกอีก 7 คน ก่อเหตุฆาตกรรม นายคาชิฮีโกะ โอโตเบะ (Kazahiko otobe) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นรองหัวหน้าแก๊งคามิยะ (Kamiya family) โดยการใช้อาวุธปืนสั้นยิงที่ศรีษะ จำนวน 2 นัด ศาลอาญาที่ประเทศญี่ปุ่นได้ออกหมายจับ นายชิเกฮารุ ต่อมาวันที่ 25 พฤษภาคม 2548 นายชิเกฮารุ ได้เดินทางจากท่าอากาศยานคันไซ (Kansai) หลบหนีมาอยู่ประเทศไทย
เบื้องต้นตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี จับกุมในข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตฯ โดยจับกุมได้ในวันที่ 10 ม.ค.61 เวลาประมาณ 17.30 น. ที่บริเวณข้างศาลลูกศร ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี นำตัวนายชิเกฮารุ ส่ง สภ.ท่าหิน ดำเนินคดีและประสานงานสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยดำเนินการต่อไป ต่อมาวันที่ 11 ม.ค.61 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร./โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองลพบุรี เพื่อร่วมสอบปากคำขยายผลการจับกุมตัว นายชิเกฮารุ ชิเรอิ
พล.ต.อ.วิรชัย ทรงเมตรา รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากการที่ พ.ต.อ.เคสุเกะ โฮซากะ เลขานุการเอกและเจ้าหน้าที่ประสานงานอาวุโสฝ่ายตำรวจ ประจำ สอท.ญี่ปุ่นได้เข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา และได้หารือขอให้ทางการไทยติดตามตัวอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญ คือ นายชิเกฮารุ ชิเรอิ อายุ 74 ปี สัญชาติญี่ปุ่น สมาชิกอาวุโสผู้ทรงอิทธิพลแก๊งยากูซ่า ชื่อยามากูชิ กูมิ” (Yamaguchi-gumi) ซึ่งเป็นแก๊ง ยากูซ่า ที่มีเครือข่ายสมาชิกกว่า 17,000 คน มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ก.ค.46 นายชิเกฮารุ ได้ร่วมกับพวกอีก 7 คน ก่อเหตุฆ่าโหด นายคาซิฮิโกะ โอโตเบะ รองหัวหน้ากลุ่ม “คามิยะ” ซึ่งเป็นกลุ่มยากุซ่าคู่อริ โดยนายชิเกฮารุ ได้ใช้อาวุธปืนจ่อยิงศรีษะผู้ตายอย่างโหดเหี้ยมหลายนัด ภายหลังก่อเหตุนายชิเกฮารุ ได้หลบหนีออกนอกประเทศ จนกระทั่งตำรวจญี่ปุ่นมีเบาะแสว่า นายชิเกฮารุ ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พ.ค.48 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดติดตามมาดำเนินคดี
จากการแกะรอย พบข้อมูลว่า มีบุคคลที่มีรูปพรรณ สัณฐานคล้ายนายชิเกฮารุ อาศัยอยู่กับภรรยาไทยใน จ.ลพบุรี และมักปรากฏตัวที่สวนสาธารณะบริเวณศาลลูกศร อ.เมือง จ.ลพบุรี เป็นประจำ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ม.ค.61 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี ได้พบนายชิเกฮารุ ที่สวนสาธารณะจึงได้ควบคุมตัวไว้ จากการสอบถามรับว่า เป็นบุคคลเดียวกันจริง จึงได้แจ้งข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด และเป็นคนต่างด้าวไม่แจ้งที่พักอาศัย ฯ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งประสานงานทางการญี่ปุ่นเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
จากการสอบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นายชิเกฮารุ มีภรรยาชาวไทย ชื่อนางอริสรา เมื่อต้องคดีที่ญี่ปุ่นจึงได้หลบหนี้มายังราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่ปี 2548 และได้อาศัยอยู่ใน จ.ลพบุรี ทำงานรับจ้างทั่วไป เช่นทาสีบ้าน ภายหลังมีปากเสียงกันเป็นประจำจึงได้เลิกรากันไป ปัจจุบันใช้ชีวิตเพียงลำพัง โดยตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย ได้พยามทำตัวเป็นจุดสนใจน้อยที่สุด เพราะเกรงว่าความลับจะเปิดเผย จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกติดตามตัว นางอริสรา เพื่อเชิญมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
สำหรับในกรณีนี้ ทางตำรวจจะทำการเนรเทศนายชิเกฮารุ กลับไปรับโทษยังประเทศญี่ปุ่นต่อไป แต่ต้องทำการตรวจสอบก่อนว่า นายชิเกฮารุ เคยต้องคดี หรือเป็นผู้สงสัยในคดีในประเทศไทยหรือไม่ หากมีต้องดำเนินคดีและรับโทษในประเทศไทยให้เสร็จสิ้นก่อน จึงเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรได้
ใจรัก วงศ์ใหญ่ ข่าว/ภาพ ศูนย์ข่าว 5 เหล่าทัพ จังหวัดลพบุรี