องค์การสหประชาชาติประกาศภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุดในประเทศอิรัก จากวิกฤติด้านมนุษยธรรม
ที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยฝีมือของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที 14 ส.ค. องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศภาวะฉุกเฉิน
ระดับสูงสุดในประเทศอิรัก ขณะที่ชาติตะวันออกกลางแห่งนี้กำลังเผชิญวิกฤติด้านมนุษยธรรมอย่างรุนแรง
จากการบุกโจมตีอย่างต่อเนื่องของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ ‘รัฐอิสลาม’ (ไอเอส: IS)
นายนิกโคไลย์ มลาเดนอฟ ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นเปิดเผยว่า ยูเอ็นประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 3 ในอิรักแล้ว
โดยประกาศนี้จะทำให้การเคลื่อนย้ายทรัพยากรเสริมทั้งสิ่งของ, เงินทุน และสินทรัพย์ ทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
เพื่อรับประกันการตอบสนองที่มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น ต่อความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ของประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับขับไล่ออกจากถิ่นที่อยู่ โดยสถานการณ์ผู้อพยพบน
ภูเขาซินจาร์ทางเหนือของอิรักยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ
ยูเอ็นประเมิณว่า มีผู้อพยพหลายหมื่นคนส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์และชนกลุ่มน้อยชาว ‘ยาซิดี’ ถูกโอบล้อม
โดยนักรบของกลุ่มไอเอส อยู่บนภูเขาซินจาร์ ขณะที่สหรัฐฯอเมริกาส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูสถานการณ์ใน
ขั้นต้นแล้ว และพบว่ามีจำนวนผู้อพยพน้อยกว่าที่คาดไว้ และสถานการณ์ด้านต่างๆก็ไม่เลวร้ายอย่างที่กลัว
เพราะผู้อพยพบางส่วนจำนวนหลายพันคนเดินทางหลบหนีออกจากภูเขาตอนกลางคืน ตลอดช่วงหลายวัน
ที่ผ่านมา
เมื่อวันพุธ สหรัฐฯหย่อนเสบียงอาหารและน้ำดื่มให้ผู้อพยพบนภูเขาซินจาร์เป็นครั้งที่ 7 โดยจนถึงขณะนี้
สหรัฐฯหย่อนเสบียงไปแล้วมากกว่า 114,000 กล่อง และน้ำดื่มอีกกว่า 35,000 แกลลอน สหรัฐฯยืนยัน
ด้วยว่าจะดำเนินการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อไป ขณะที่การโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มไอเอส
ก็จะดำเนินต่อไปด้วยเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัด อันบาร์ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองติดอาวุธ
มานานหลายเดือน เรียกร้องให้สหรัฐฯช่วยสนับสนุนทางอากาศ และช่วยเหลือในด้านอื่นๆ
เพื่อต่อสู้กับกลุ่มไอเอส