นายกฯไทย 3 ฝ่ายปรองดอง วันก่อนผมได้เดินทางไปสีหนุวิวล์(กัมปังโสม)ประเทศกัมพูชา
รีสอร์ทริมทะเลอันหรูหราของกัมพูชา
วันก่อนผมได้เดินทางไปสีหนุวิวล์(กัมปังโสม)ประเทศกัมพูชา กับเพื่อนชาวกัมพูชา ได้ร่วมวงสนทนากัน
ตลอดเกี่ยวกับเรื่องของประเทศไทยและกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การทหาร การท่องเที่ยว และ
เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน สีหนุวิวล์วันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมากจากเมืองชายทะเล
ที่สงบ มีอุตสาหกรรมโรงงานเกิดขึ้นมากมาย อุตสาหกรรมท่องเที่ยวคึกคัก อุตสาหกรรมส่งออก-นำเข้า
ขนถ่ายสินค้า มีท่าเรือน้ำลึก ที่เริ่มทันสมัย มีรถขนส่งของรัสเซียหลายยี่ห้อวิ่งขนส่งถ่ายสินค้ากันไปมา
เห็นแล้วอดอิจฉาคนกัมพูชาอยู่ลึกๆ
โรงไฟฟ้า
>>>ผมถามแย็บไปเรื่องการเมืองไทยในสายตาของชาวกัมพูชา เพื่อนก็หัวเราะ แล้วก็วิเคราะห์ให้ดูตามแนวคิด
ของตนเองว่า เมื่อก่อนคนกัมพูชาอิจฉาคนไทยที่ไม่เคยเจอสงครามกลางเมือง ช่วงนั้นเพื่อนอยู่ในส่วนของ
กองทัพเขมรแดง ดูแลรับผิดชอบชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดจันทบุรี-ตราด เห็นคนเขมรตายมาเยอะ
เมื่อมีการสู้รบ อดเป็นห่วงและไม่อยากให้ไทยเป็นเหมือนเขมรในอดีต ผมเลยถามกลับไปว่า แล้วถ้าคุณเป็น
คนไทย คุณจะทำอย่างไร
>>>เพื่อนก็หัวเราะอีก แล้วบอกให้คิดเล่นๆน่ะ นี่เป็นสมองอันน้อยนิดของเขา ปัญหาของไทยแก้ง่ายนิดเดียว
มีต้นเรื่องอยู่แค่ 2 คน จับสองคนนี้มาจูบปากกัน เป็นอันเรียบร้อย คนหนึ่งชื่อ ทักษิณ อีกคนชื่อ ป๋าเปรม แล้ว
ยังบอกต่อว่า วิธีทำให้จูบปากกัน 2 วิธี
หนังสือพิมพ์๕เหล่าทัพ ฉบับที่ 17
>>>วิธีที่ 1 แบบประหยัดงบ จับไปปล่อยเกาะตะรุเตาทั้งคู่ ไล่อุทยานออก ไล่โรฮิงญาออก แจกเบ็ดคนละคัน
ให้หากินแบบดำรงชีพในป่า ซึ่งทั้งสองคนนี้ผ่านหลักสูตรมาแล้ว ถ้าจะหาเงิน ก็ให้ TV ถ่ายทอด 24 ชม.
เหมือนสวนสัตว์เชียงใหม่ถ่ายทอดหลินปิง ปล่อยให้สองคนอยู่จนกว่าจะจูบปากกันสัก 2 ปี ถ้ายังไม่จูบปากกัน
ก็ยังมีวิธีที่ 2
>>>วิธีที่ 2 เชิญ 2 ท่านไปอยู่ดวงจันทร์ อาจใช้งบมากหน่อย แต่ก็น่าจะขอ ปตท.ได้ มีคำสั่งจ่ายงบ
ประชาสัมพันธ์ แบบอู้ฟู่ ถ่ายทอดอีก ปล่อยให้อยู่ 2 คน สัก 2 ปี ถ้าไม่จูบปากกันก็ปล่อยให้ลืมเลย
ขี้คร้านต้องรีบจูบปากกัน เพราะไม่รู้จะอยู่ดวงจันทร์ไปหาพระแสงอะไร มันวังเวง
>>>ผมถามต่อ แล้วอย่างนี้ประเทศไทยก็เงียบละซิ แล้วใครจะมาเป็นนายกฯ ล่ะทีนี้ เพื่อนบอกไม่ยากเลย
เมื่อก่อนเขมรมี 4 ฝ่าย มีกลุ่มสีหนุ , กลุ่มเขมรเสรี , กลุ่มเขมรแดง และกลุ่มเฮง สัมริง (หรือกลุ่มฮุนเซน)
มาประชุม และจัดตั้งสภาสูงสุดแห่งกัมพูชา จัดการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งพรรคฟุนซินเปค ของเจ้านโรดม
รณฤทธิ์ ชนะพรรคประชาชนกัมพูชา ทำให้ฮุนเซนไม่พอใจ และจะแยกดินแดน เดือนร้อนเจ้าสีหนุต้องลงมา
ประนีประนอม และให้มี นายกฯ 2 คน ซึ่งมีที่เดียวในโลก
แต่ไทยไม่ต้องถึงขนาดจัดการเลือกตั้งใหม่ มันเปลืองงบ เพราะ 2 คนนั้นไปอยู่ดวงจันทร์แล้ว ก็จัดตั้ง
คณะบริหารประเทศไทย โดยมีนายกฯ 3 คน(กิมเนสบุ๊คต้องบันทึกแน่) 3 คนที่ว่ามีใครบ้าง เอามาทำอะไร
นายกฯคนที่ 1 ต้องเข้มแข็งและเด็ดขาดเฝ้าประเทศไทย ตำแหน่งนี้ ยกให้ป๋าตู่ของพี่ช้าง ขวัญใจแม่ยก
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ไปเชิญท่านมาดูแลความเรียบร้อยในประเทศ ควบคุมกิจการภายใน
ทั้งปวง ใครไม่เชื่อใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง กุดหัวอย่างเดียว นายกฯคนที่ 2 เชิญท่านประธานหอการค้าไทย
และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คุณอิสระ ว่องกุศลกิจ เอาไว้เจรจาค้าขายกับต่างชาติ ดึงเงินมาลงทุน
ดึงเงินมาค้าขาย ดึงคนมาท่องเที่ยว ค้าขาย-ท่องเที่ยวอย่างเดียว ร่วมมือกับนายกฯคนที่ 3 ก็คือ ท่านประธาน
สภาอุตสหกรรมแห่งประเทศไทย คุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล นำพาเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ต้องจับมือกัน
แค่นี้ก็น่าจะจบน่ะ เอาสัก 4 ปี มาประเมินดู ไม่จบก็ต่ออีก 4 ปี 2 เทอม 8 ปี ผมว่าน่าจะพอน่ะ
เพราะต้นเรื่อง 2 คน ก็คงหง่อมพอดู
>>>ผมนั่งคิดสักครู่ แล้วก็เออ..ออ…ห่อหมกกับเพื่อนชาวกัมพูชาด้วย ท่าจะดีเนอะ แต่ก็ถามเพื่อนกลับไป
ว่า แล้วใครจะเชิญ 2 ท่านนี้ไปอยู่เกาะ-อยู่ดวงจันทร์ล่ะ เพื่อนหัวเราะ ทำท่าแบ๊ะๆ ไม่ตอบ แต่ให้เราหาวิธี
คิดเอาเอง…เดือดร้อนตูมั้ยล่ะ คิดมาตั้งนาน…มาจบข่าว..ว่า..ใครจะเชิญสองท่านนี้..คิดแล้วก็คิด..คิดๆ
คิดไม่ออกเลย อยากถามพี่น้องประชาชนคนไทยว่า มีใครพูดแล้ว 2 ท่านนี้เชื่อบ้างล่ะ ตอบผมหน่อยน่ะครับ
