กองกำลังตำรวจในเมืองเฟอร์กูสัน ชานเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ในสหรัฐฯ ต้องยิงแก๊สน้ำตา
ระเบิดสลายม็อบ และระเบิดควัน เพื่อสลายการชุมนุมประท้วงราว 350 คน ที่ขว้างระเบิดขวดเข้าใส่
เมื่อช่วงดึกวันพุธ 13 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
ซึ่งล่วงเข้าสู่คืน ที่ 4 หลังผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันทุกคืนนับแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงนายไมเคิล บราวน์
เด็กวัยรุ่นผิวสีอายุ 18 ปี หลายนัดทั้งที่ศีรษะและบริเวณหน้าอก ทั้งที่ไม่ได้พกพาอาวุธจนเสียชีวิตตั้งแต่
วันเสาร์ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับเหยื่อบริสุทธิ์ สะท้อนถึงเหตุที่เคยเกิดขึ้น
เมื่อเดือน ก.พ.ปี 2554 ที่ตำรวจบ้านยิงนายเทรย์ยอน มาร์ติน วัยรุ่นผิวสี ซึ่งไม่มีอาวุธ ที่รัฐฟลอริดา
จนเกิดกระแสต่อต้านทั่วสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ตำรวจก็ได้จับกุมกลุ่มก่อกวนเพิ่มอีก 10 คน รวมนักข่าวจาก นสพ.วอชิงตัน โพสต์กับ
นสพ.ฮัฟฟิงตัน โพสต์ 2 คน เป็นทั้งหมดราว 40 คน ด้านประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ
ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างช่วงพักร้อนที่เกาะมาร์ธา ’ส ไวน์ยาร์ด รัฐแมสซาชูเสตต์ ก็คอยรับฟังการสรุป
เหตุการณ์จากคนใกล้ชิด และเรียกร้องให้เกิดความสงบ รวมถึงนายเจมส์ โนวเลส นายกเทศมนตรี
เมืองเฟอร์กูสันและสาธุคุณ อัล ชาร์พตัน ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมือง
ขณะที่นายเจย์ นิกสัน ผู้ว่าการรัฐมิสซูรี ก็ขอให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนดำเนินการต่อไป คาดว่า
ใช้เวลาหลายสัปดาห์ และขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความสงบและเคารพสิทธิของชาวบ้านและสื่อมวลชน
เรื่องราวของเหตุการณ์ ซึ่งตำรวจอ้างว่า บราวน์พยายามเข้าไปยื้อแย่งปืนจากตำรวจนายหนึ่ง โดยไม่
เปิดเผยชื่อที่นั่งอยู่ในรถสายตรวจ อีกทั้งเพื่อนตำรวจคนนี้ก็ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าระหว่างต่อสู้
กับนายบราวน์ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก่อนได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน แต่พยานซึ่งเป็นเพื่อน
บราวน์และอยู่ในเหตุการณ์ก็อ้างว่า บราวน์ปลุกปล้ำอยู่กับตำรวจนายดังกล่าวตรงหน้าต่างรถ จากนั้นบราวน์
ก็หลุดออกมา เจ้าหน้าที่คนนั้นก็เปิดประตูรถ เดินมาแล้วยิงปืนใส่ ทั้งที่บราวน์ชูมือขึ้นทั้งสองข้าง ตำรวจก็ยังยิงซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นายทอม แจ็กสัน ผู้กำกับการตำรวจเมืองเฟอร์กูสัน ก็เผยว่า ภารกิจแรกที่สำคัญสุดสำหรับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนี้คือ การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างชาวอเมริกันผิวขาวกับชาวอเมริกันผิวสีใน
เมืองนี้ เพราะสัดส่วนประชากร 2 ใน 3 ของ 21,000 คนเป็นคนผิวสี แต่มีตำรวจผิวสีเพียง 3 นาย
จากทั้งหมด 53 นาย
นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยทางตำรวจกำลัง
สืบสวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ใช้ปืนยิงใส่ชายผิวสีอายุ 25 ปีจนเสียชีวิตขณะสั่งให้จอดรถเพื่อขอตรวจค้น
ทำให้บนโลกสังคมออนไลน์เกิดการตั้งกลุ่มที่อ้างว่าเชื่อมโยงกับนักเคลื่อนไหวแฮกเกอร์นิรนาม เรียกร้อง
ให้นัดประท้วงทั่วประเทศ และข่มขู่ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเฟอร์กูสัน
ให้หมด.