เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ม.ค. 2561 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.ต.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง สว.สส.สน.บางขุนเทียน นำกำลังจับกุม นายทัตชัย ไทยพุ่ม หรือ “กอล์ฟ วัดไทร” อายุ 23 ปี และ นายนรินทร์ หรือแมค สีมงคลรัตน์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลาง รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีเหลืองฟ้า ทะเบียน ลจม 34 กรุงเทพมหานคร ตู้เซฟยี่ห้อ OTANI ขนาดความจุประมาณ 100 ลิตรที่ถูกงัดฝาออกแล้ว 1 ใบ เงินสด 1,325.50 บาท เครื่องเจียรไฟฟ้าพร้อมค้อนและสิ่ว 1 ชุด หมวกนิรภัย 1 ใบ และหมวกแก๊ปอีก 1 ใบ โดยจับกุมตัวทั้ง 2 รายได้ในบ้านเลขที่ 17/12 หมู่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.
พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้แทนจากวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ว่า ตู้เซฟรับเงินบริจาค ซึ่งวางอยู่ในพระอุโบสถของทางวัด ถูกโจรใจบาปลักเอาไป จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนรีบเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ทั้งหมดในอาณาบริเวณวัด พบภาพคนร้ายทั้ง 2 ราย คือ นายทัตชัย และ นายนรินทร์ เป็นผู้ก่อเหตุลักลอบเข้าไปในพระอุโบสถก่อนช่วยกันอุ้มตู้เซฟบริจาคทั้งใบออกมา จากนั้น นายนรินทร์ ก็ขี่ รถ จยย.ของกลางให้ นายทัตชัย ซ้อนท้ายกอดตู้เซฟพากันหลบหนีออกมาทางข้างๆ กำแพงวัด จากการตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานคนร้ายทั้งคู่ พบว่าตรงกับข้อมูลประวัติอาชญากรรมเก่าๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้ง นายทัตชัย และ นายนรินทร์ ต่างก็เคยถูกจับดำเนินคดีข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดและสูดดมสารระเหยมาแล้ว จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านพัก ของ นายนรินทร์ กระทั่งพบผู้ต้องหาทั้งคู่อยู่ด้วยกัน พร้อมรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ และของกลางทั้งหมด
จากการสอบสวน นายทัตชัย ยอมรับว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ไม่มีญาติพี่น้องและพ่อกับแม่ก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว จึงอาศัยนอนในศาลาวัดไทร ย่านถนนเอกชัย กวาดลานวัดแลกข้าวพระกินไปวันๆ ต่อมาตนได้ไปรู้จักกับ นายยศสรัล ศักดิ์ถนอมศรี หรือ “ปิ๊ง วัดไทร” อายุ 30 ปี ชักชวนตนให้ลองเสพยาบ้าจนติด กระทั่งตนโดนตำรวจ สน.บางขุนเทียน จับข้อหามียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อเสพ ติดคุกเพิ่งออกจากเรือนจำคลองเปรม มาได้ราว 1 เดือน ก็มาพบ นายยศสรัล อีก คราวนี้ นายยศสรัล จึงวางแผนให้ตนเดินทางไปร่วมก่อเหตุขโมยเงินตามตู้บริจาคของวัด ต่างในพื้นที่ บางขุนเทียนเพื่อหาเงินมาแบ่งกันซื้อยาบ้า โดยเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา หลังตนพ้นโทษ ก็ได้ร่วมกันกับ นายยศสรัล เข้าไปก่อเหตุงัดตู้ไม้รับเงินบริจาคที่ วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ทำมาแล้วกว่า 5-6 ครั้ง ได้เงินไปจำนวน 3 ครั้ง ได้เงินมาก็แบ่งกันคราวละ 700-800 บาท
“ล่าสุดครั้งนี้ นายยศสรัล คิดการใหญ่วางแผนให้ตนเข้าไปในพระอุโบสถของทางวัด เพื่อโจรกรรมตู้เซฟ ตนจึงชักชวน นายนรินทร์ เพื่อนสนิทซึ่งเสพติดสารระเหย และสามารถหยิบยืม รถ จยย.ของญาติๆ มาใช้ก่อเหตุได้ให้เดินทางไปด้วยกัน พอเข้าไปเอาตู้เซฟออกมาได้แล้วก็นัดพบกันที่บ้านพักของ นายนรินทร์ โดย นายยศสรัล ยังได้พาเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งตนไม่ทราบชื่อ มาช่วยกันใช้เครื่องมือเปิดฝาตู้เซฟนำเงินทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบงก์ร้อยกับแบงก์ยี่สิบ ออกมาได้ ราวๆ 3,000 บาท จากนั้น นายยศสรัล กับเพื่อนอีก 2 คน ก็แยกย้ายกันหลบหนี โดยทั้ง 3 คน ขอแบ่งเงินค่าช่วยชำแหละตู้เซฟเอาไปรวมกันประมาณ 1,700 บาท เหลือเงินไว้ให้ตนกับ นายนรินทร์ นำมาแบ่งกันทั้งสิ้น 1,325.50 บาท แต่ยังไม่ได้ใช้เงินก็ถูกตำรวจบุกมารวบตัวไว้เสียก่อน” นายทัตชัย กล่าว
ด้าน พ.ต.ต.จารุกิตติ์พัฒน์ กล่าวว่า ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร แก่ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ทั้ง 2 ราย ส่วน นายยศสรัล ศักดิ์ถนอมศรี หรือ “ปิ๊ง วัดไทร” อายุ 30 ปี หัวโจกกับเพื่อนอีก 2 คน ที่หลบหนีไปได้ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานไปทำการขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาธนบุรีในข้อหาเดียวกัน นอกจากนี้แนวทางการสืบสวนยังพบข้อมูลว่า นายยศสรัล น่าจะมีประวัติพัวพันกับคดีร่วมกันโจรกรรม รถ จยย.ในพื้นที่ สน.ท่าข้าม ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม นำหลักฐานมาขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อแจ้งข้อหาตามฐานความผิดเกี่ยวกับการโจรกรรมรถ จยย.เพิ่มเติมด้วยต่อไป
/////////////////////////////////////////////////////////////////////
ขอบคุณภาพ/ข่าว
> cr.ป๋าหรั่ง/ฝั่งธน ( นสพ.พิมพ์ไทย )
> ธีรพล ปลื้มถนอม ( ผู้สื่อข่าว นสพ.๕ เหล่าทัพ ) รายงาน