ไม่รื้อคฤหาสถ์หลังใหญ่ “เมียธาริต” “ป่าไม้” อ้างมีโฉนดครอบครองถูกต้อง
คนงานชิงรื้อบ้านสองหลังติดบ้านภรรยาธาริต ก่อนถึงวันกำหนดของป่าไม้ที่จะเข้ารื้อถอน 6 สิงหาคมนี้
ยังไม่มีคนแสดงตัวเป็นเจ้าของ ส่วนคฤหาสถ์หลังใหญ่ของภรรยานายธาริต ป่าไม้อ้างมีเอกสารโฉนด
ครอบครองถูกต้อง
หลังจากมีคนงานประมาณ 10 คน ทำการรื้อถอนบ้านจำนวน 2 หลังที่ปลูกอยู่บนเนินเขา บริเวณหลังบ้าน
พักตากอากาศ ศิริอุบล โฮมสเตย์ ฟีออร์เร่ ปาร์ค บ้านของภรรยา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรม
สอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) บริเวณบ้านเลขที่ 444 หมู่ที่ 11 บ้านมอกระหาด ต.หนองน้ำแดง
อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ตั้งแต่เย็นวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถึงวันที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้จะเข้า
ไปรื้อถอนในวันที่ 6 สิงหาคมนี้นั้น
ล่าสุด เวลา 10.00 น. วันที่ 5 ส.ค.57 ผู้สื่อข่าวเข้าไปยืนดูบริเวณถนนสาธารณะข้างบ้านของภรรยา
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ปรากฏว่ามีชายฉกรรจ์ ขับรถกระบะ แค็บสีเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถ
โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ขับวนไปมาเพื่อดูผู้สื่อข่าว
จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณปลูกสร้างบ้านเนินเขาจำนวน 2 หลัง ถูกรื้อถอนและทุบเหลือเพียง
พื้นฐานบ้านเปล่า ๆ ส่วนประตูทางเข้าบ้านภรรยานายธาริต มีแผ่นป้ายมาปิดห้ามเข้าที่ส่วนบุคคล
สังเกตมีรถเก๋งสีขาว และรถกระบะสีขาว จอดอยู่ใกล้บ้านที่รื้อถอนออกไป และมีชายฉกรรจ์เดิน
ไปมาอยู่ประมาณ 4-6 คน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายอร่าม มั้นชาวนา หัวหน้าหัวป้องกันรักษาป่า ที่นม.1
(ปากช่อง)ทราบว่าเดินทางไปประชุมที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา ) ในการ
วางแผนว่าจะนำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านที่ถูกรื้อถอนอย่างไร แต่ไม่ให้รายละเอียดในเชิงลึก
โดยทราบว่าเดิมพื้นที่ปลูกบ้าน 2 หลังบนเนินเขาเป็นป่าสงวนแห่งชาติโซน อี และกรมป่าไม้ให้เช่า
พื้นที่ แต่ต่อมาขาดสัญญาเช่ามาหลายเดือนแล้ว
ก่อนหน้านี้ มีกลุ่มเครือข่าย อำเภอปากช่องและกลุ่มเครือข่าย กปปส.จังหวัดนครราชสีมา นำมวลชน
กว่า 100 คน ไปปิดล้อมด้านหน้า 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา
เนื่องจากมีการกล่าวหาว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวนกว่า 6 ไร่ เพื่อปลูกสร้างอาคาร
กว่า 6 หลังและตัดถนนเข้าไปบริเวณพื้นที่ป่าสงวน
ต่อมาคณะกรรมาธิการป้องกันและประพฤติมิชอบวุฒิสภา นำคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบพื้นที่และ
บ้านนี้มาแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบใกล้ชิดได้ เนื่องจากมีป้ายห้ามเข้าพื้นที่มาปิดประกาศไว้
โดยช่วงนั้น นายวีรวัฒน์ ประสบสุข ผอ.ส่วนป้องกันและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8
(นครราชสีมา )เคยแจ้งว่า บ้านจำนวน 2 หลัง ปลูกมานาน ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ไม่พบว่ามี
ผู้พักอาศัยและไม่มีผู้แสดงตนว่าเป็นเจ้าของ
นอกจากนี้นายจีระศักดิ์ สุจริตตานนท์ เจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง ยังเคยกล่าวว่า
พื้นที่ดังกล่าว มี 3 แปลง ได้มีเอกสารโฉนดครอบครองถูกต้องทั้ง 3 แปลง ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งพื้นที่
ทั้งหมดอยู่นอกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และมีการเปลี่ยนเจ้าของกันมาเป็นทอด ๆ เนื่องจากมีการทำประโยชน์
ในพื้นที่มาก่อน ก่อนที่จะมาเป็นของนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยาของนายธาริต โดยบ้าน 2 หลังที่ปลูกบนเนิน
เขาไม่ทราบเป็นของใคร เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่ดิน 3 แปลงของภรรยานายธาริต ที่มีเอกสารสิทธิ์
นอกจากนี้ นายประสาน มฤคพิทักษ์ ประธานคณะเข้าตรวจสอบ เคยเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ้านของ
นายธาริตพบว่ามีเอกสารสิทธิ์ เป็นโฉนดจำนวน 3 แปลง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 ก่อนที่จะมีการประกาศปฏิรูป
จะเข้ามาในเขต อ. ปากช่อง ปี 2534 ส่วนบ้านจำนวน 2 หลัง ตามเอกสารชื่อนางวันทนา พิพัทธ์ไชยศิริ
ที่ปลูกบนเชิงเขาคาดว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องตรวจสอบและจัดการตาม
กฎหมาย ซึ่งวันนี้บ้าน 2 หลังดังกล่าวถูกรื้อถอนไปแล้ว แต่ยังมีรั้วลวดหนามล้อมรอบเอา